หลัวซือหมิงมาจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย อายุ 83 ปี ที่จริงแล้วคนในวัยนี้ควรจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข อยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างมีความสุข แต่ว่ากลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เขากลับถูกรบกวนจากโรคร้าย เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 เนื่องจากบริเวณขากรรไกรด้านซ้ายมีก้อนเนื้อ เขาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลในพื้นที่ และได้รับการบอกกล่าวว่าเป็นมะเร็งขากรรไกรด้านซ้ายชนิด squamous cell carcinoma ข่าวร้ายที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนี้ ทำให้ครอบครัวที่เดิมมีแต่ความสุขนั้นดูมืดมนขึ้นในทันใด
ปฏิเสธการผ่าตัด เพียงเพื่อมองหาโรงพยาบาลมะเร็งที่ดีกว่า
หลังจากได้รับการวินิจฉัยชี้ชัดแล้วว่าเป็นมะเร็ง เขาได้เปลี่ยนโรงพยาบาลมาหลายปห่ง คุณหมอล้วนแนะนำให้เขาผ่าตัด แต่กลับถูกหลัวซือหมิงปฏิเสธไปหมด ในระหว่างนั้น เขาและคนในครอบครัวก็มองหาโรงพยาบาลมะเร็งที่ดีกว่าอยู่เรื่อยๆ จนในที่สุดความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น บังเอิญครั้งหนึ่งหลัวซือหมิงเห็นข้อความเกี่ยวกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวในหนังสือพิมพ์ ก็ได้ทราบว่าโรงพยาบาลแห่งนั้นเป็นโรงพยาบาลมะเร็งที่มีเทคโนโลยีการรักษามะเร็งที่ก้าวหน้าและมีการบริการที่หลากหลาย เมื่อผ่านการสอบถามและทำความเข้าใจแล้ว เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว และก้าวสู่เส้นทางการรักษาในต่างแดน
เชื่อในโรงพยาบาล เพิ่มความเชื่อมั่นในการรักษา
หลังจากที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เขาได้รับผลการรักษาที่ดีมาก ตอนนี้สามารถอ้าปากกว้างได้ พูดเสียงดังได้แล้ว สภาพจิตใจก็ดีมากเช่นกัน ซึ่งทำให้เขาสบายใจเป็นอย่างมาก “ในช่วงที่ผมอยู่โรงพยาบาล คุณหมอและพยาบาลต่างดูแลเอาใจใส่ผมอย่างดี และยังมีความรับผิดชอบสูง โดยเฉพาะหัวหน้าแพทย์ไต้และคุณหมอไล่ พวกเขาจะสอบถามอาการของผมอย่างละเอียด และกำชับผมเรื่องที่ปกติต้องระวังอย่างมีความอดทน สรุปแล้ว ช่วงเวลานี้ทำให้ผมได้รับสิ่งดีๆ มากมาย ทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นในการรักษาอีกด้วย” หลัวซือหมิงแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวอย่างเต็มปาก ขณะเดียวกัน เขาก็ยังชื่นชมสภาพแวดล้อมของโรงพยาบาลอย่างไม่ขาดปาก “โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวตั้งอยู่ใต้เชิงเขาไป๋ยวิ๋น อากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งห้องผู้ป่วยมีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเท ค่อนข้างสบาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการรักษาตัว”
มองโลกในแง่ดี ศรัทธาในการต่อสู้กับมะเร็งอย่างเด็ดเดี่ยว
ในระหว่างการสัมภาษณ์ รอยยิ้มที่ร่าเริง คำพูดที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองส่งอิทธิพลมายังบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน แม้ว่าร่างกายจะเป็นมะเร็ง แต่เขากลับไม่รู้สึกลังเลหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด เขาบอกกับพวกเราว่า ตลอดชีวิตของเขาผ่านอุปสรรคมามากมาย สำหรับเขาแล้วมะเร็งก็เป็นแค่อุปสรรคเล็กๆ ในชีวิตเท่านั้น ไม่มีอะไรที่น่ากลัว เขาคิดว่าการรักษาสภาพจิตใจให้ดีก็คือยาที่ดีในการต่อสู้กับมะเร็ง ในช่วงที่อยู่โรงพยาบาล เขากระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมที่โรงพยาบาลจัดขึ้น นอกจากนี้ เขายังใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือทุกวันอีกด้วย แม้ว่าอายุจะมากถึง 83 ปีแล้วก็ตาม แต่เขายังคงใฝ่หาความรู้ หลังจากมากว่างโจว เขายังไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือกลับมาอ่านหลายเล่ม “อยู่จนแก่ เรียนจนแก่” ประโยคนี้เป็นคำจำกัดความที่ดีที่สุดที่พบได้ในตัวของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
หลัวซือหมิงเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว