เย่ชินชาง ผู้ป่วยชาวอินโดนีเซีย
เมื่อพบมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ฉันไม่ยอมทำการผ่าตัด
เมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันเริ่มรุ้สึกไม่สบาย ฉันอ่อนเพลียง่าย เริ่มผอมลง มีเนื้องอกที่คอและบางทีจะโคม่าด้วย ครอบครัวเป็นห่วงฉันมาก เราจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลและพบว่ามีเนื้องอกอยู่ที่ต่อมน้ำเหลือง ซึ่งอาจจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ นายแพทย์แนะนำให้ฉันทำการผ่าตัด ฉันรู้สึกท้อแท้ใจ หวาดกลัวและกระวนกระวาย ฉันตรึกตรองและตัดสินใจที่จะปฏิเสธแผนการการบำบัดนี้ ฉันเชื่อว่าจะมีวิธีการบำบัดที่ดีกว่านี้ ซึ่งจะช่วยฉันและบรรเทาความเจ็บปวดได้ ตั้งแต่วันนั้นเป็นตนมา ฉันก็พยายามค้นหาวิธีการบำบัดที่มีประสิทธิภาพ
ฉันได้รับทราบจากเพื่อนโดยบังเอิญว่าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวมีเทคโนโลยีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก เพียงแต่มีบาดแผลเล็กน้อย อาการก็จะได้รับความควบคุมได้ ดังนั้น ฉันกับลูกชายจึงไปปรึกษาที่สำนักงานที่กรุงจาการ์ตาของโรงพยาบาล เมื่อทราบสภาพทั่วไปของโรงพยาบาลแล้ว เราเลยตัดสินใจที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ถึงแม้ว่ายังไม่ทราบว่าฉันจะได้รับผลการรักษาอย่างไร แต่ฉันก็ไม่ยอมละเลิกโอกาสเช่นนี้ ฉันพร้อมที่จะต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างเต็มที่
เมื่อวันที่ 26 เดือนมีนาคม ปี 2012 ฉันกับลูกชายเริ่มการบำบัดระยะแรกที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งเดือน เมื่อนึกถึง 30 วันมานี้ ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก ทุกวันต้องฉีดยา ทานยา ตรวจร่างกายและทำการบำบัด แต่โชคดีที่มีลูกชายอยู่กับฉันและมีนายแพทย์และพยาบาลที่ดูแลฉันอย่างถี่ถว้น นอกจากนี้ ฉันยังมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับมะเร็ง ทั้งนี้ จึงทำให้ฉันต่อสู้กับมะเร็งอย่างแข็งขันได้และพยายามทำตามแผนการการบำบัดของนายแพทย์
เย่ชินชาง(กลาง)และนายแพทย์ถางเสียงจวน(คนแรกในทางขวา) พยาบาล
ความชนะของขั้นตอนแรก ทำให้ฉันเห็นแสงสว่างแห่งความหวัง
เมื่อฉันเพิ่มเข้าโรงพยาบาล นายแพทย์ก็ตรวจให้ฉันอย่างถี่ถ้วน ผลวินิจฉัยปรากฏว่าฉันเป็น์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองแบบNHLระยะที่สี่ มีการขยายตัวไปถึงทั่วร่างกาย อาการของฉันสาหัสมาก นายแพทย์ถางเสียงจวนและไต้เหวินเย่ หัวหน้าชั้น และผู้เชี่ยวชาญอีกหลายท่านเปิดประชุมเพื่อปรึกษาหารือแผนการการบำบัด เนื่องจากฉันไม่ยอมทำการผ่าตัด นายแพทย์เลยตัดสินใจที่จะอุดเส้นเลือดเฉพาะจุดให้ฉัน ก่อนที่จะบำบัด นายแพทย์ถางอธิยายอาการของฉันให้ฉันฟังอย่างละเอียดและแนะนำวิธีการอุดเส้นเลือดเฉพาะจุดให้ฉันทราบพร้อมกับการคาดคะเนอาการต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการบำบัด รายละเอียดทั้งหมดนี้ทำให้ฉันสบายใจมากขึ้นและไม่สงสัยอีก ด้วยการอุดเส้นเลือดเฉพาะจุดสองครั้ง สภาพร่างกายของฉันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลักจากการบำบัด ฉันเพียงรู้สึกร้อนเล็กน้อย แต่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ นอกจากนี้ ฉันยังรู้สึตัวเองทำงานว่องไวกว่าเดิม
ผลการบำบัดแบบนี้ ทำให้ฉันเห็นความหวังแห่งชีวิต เมื่อวันที่ 27 เดือนเมษายน ฉันออกจากโรงพยาบาลและกลับไปพักที่บ้าน นายแพทย์ถางจัดเตรียมทั้งยาแผนโบราณจีนและยาฝรั่งให้ฉันกลับไปทานที่บ้าน ยังกำชับให้ฉันระวังเรื่องการใช้ชีวิตและอาหารอย่างละเอียด ฉันเอาชนะการต่อสู้กับมะเร็งเป็นขั้นแรก ฉันจึงมีความมั่นใจในการต่อสู้ต่อไปป
นี่เป็นการต่อสู้ที่เรื้อรัง
มะเร็งเป็นโรคที่สลับซับซ้อน ชีวิตของฉันดูเหมือนดำรงไปเพื่อมะเร็งอย่างเดียว ฉันต้องปรับตัวให้เข้ากับมะเร็ง และต้องท้าทายมะเร็ง ฉันต่อสู้กับมะเร็งที่เรื้อรังด้วยพลังทั้งหมดของฉัน
ต่อมา ฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน กรกฏาคมและสิงหาคมเป็นจำนวน 5 ครั้ง ทุกครั้งที่ตรวจ เวลาเข้าพักโรงพยาบาลลดน้อยลงเป็นเพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น เมื่อไปตรวจเป็นครั้งที่สาม ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างเด่นชัดก็คือน้ำหนักของฉันขึ้นไป 20 กิโลกรัม ซึ่งต่างกับก่อนไปรักษาเป็นอย่างมาก บัดนี้ สีหน้าของฉันเหมือนคนปกติแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม ฉันไปตรวจร่างกายและฝังแร่ไอโอดีนอีกเป็นสองครั้ง เหลือแต่ที่คอยังมีก้อนมะเร็งอยู่ ส่วนอื่นของร่างกายไม่มีก้อนมะเร็งอีกแล้ว ทุกครั้งที่ฉันเข้าโรงพยาบาล ห้องพักฉันอยู่ที่ชั้นห้า ฉันเลยได้รู้จักกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากกรุงจาการ์ตาของประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้แล้ว ยังมีผู้ป่วยที่มากจากประเทศเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์เป็นต้น ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งระยะแรกหรือระยะกลาง นายแพทย์จะช่วยชีวิตเขาได้ หากเป็นผู้ป่วยมะเร็งตอนปลายหรือเซลล์มะเร็งได้ขยายตัวไปถึงส่วนอื่นของร่างกาย นายแพทย์ก็จะเพียงได้แต่ยืดชีวิตและบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น
จิตใจเป็นปัจจับสำคัญเวลาต่อสู้กับมะเร็ง สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวดูแลจิตใจของผู้ป่วยอย่างตั้งอกตั้งใจ ผู้ป่วยมีโอกาสออกไปเที่ยวข้างนอกเกือบทุกอาทิตย์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยไม่เพียงแต่ได้ชมทิวทัศน์ของเมืองกว่างโจวเท่านั้น ยังสามารถสัมผัสกับความชีวิตชีวาของธรรมชาติอีกด้วย ฉันชอบการเที่ยวแบบนี้ ทุกครั้งที่ฉันไปเที่ยงข้างนอก ฉันได้รู้จักเพื่อนใหม่ เวลาเราคุยกัน เราให้กำลังใจแก่กัน จึงได้ระบายความรู้สึกและทะนุถนอมชีวิตมากยิ่งขึ้น ฉันดีใจมากที่ได้พบโรงพยาบาลที่ดีอย่างนี้ ฉันพอใจไม่ว่าในด้านเทคโนโลยีการบำบัดหรือบริการการพยาบาล
เมื่อวันที่ 27 เดือนสิงหาคม ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันอยากรีบกลับไปกรุงจาการ์ตาเพื่อไปหาลูกๆ ของฉัน ขอบคุณมากที่ดูแลและเข้าใจฉันตลอดมา และขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ดูแลฉันอย่างถี่ถ้วน ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง
เย่ชินชางและลูกชายถ่ายรูปกับนายแพทย์และพยาบาล