“ทุกอย่างของที่นี่ทำให้พวกเรารู้สึกถึงความเป็นมิตรมาก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดจนถึงปัจจุบันนี้ เราเคยไปรักษาอยู่หลายประเทศ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ที่ทำให้เรารู้สึกว่าดีที่สุดก็คือโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ที่นี่ไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีการรักษาที่ก้าวหน้าที่สุดของโลก แต่ยังมีความอบอุ่นและความอดทนของคุณหมอและพยาบาล ทำให้พวกเรารู้สึกเป็นมิตรและอบอุ่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลย” นี่คือความรู้สึกส่วนลึกที่สุดของหลี่หมิงกวงกับภรรยาที่มีต่อการรักษาที่ประเทศจีนในครั้งนี้
เมื่อพูดถึงอาการป่วยของหลี่หมิงกวง ภรรยาของเขารู้สึกผิดมาก เธอเล่าว่า ต้นปี พ.ศ.2554 เนื่องจากหลี่หมิงกวงมีอาการไอ ไอมีเสมหะ หายใจลำบาก จึงไปตรวจที่มาเลเซีย อย่างที่ว่ากันไม่ตรวจก็ไม่รู้ พอตรวจก็ถึงขั้นต้องตกใจ หลังจากตรวจด้วย PET-CT แล้ว หลี่หมิงกวงก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด
“ทั้งที่ความสุขกำลังจะได้เริ่มขึ้นตรงหน้าอยู่แล้วเชียว แต่กลับโชคไม่ดีเป็นโรคนี้เข้า ตอนที่รู้ผลตอนนั้นฉันกลัวมากจริงๆ และรู้สึกเสียใจที่ตอนแรกไม่ได้ช่วยเขาดูแลจัดการบริษัท ถ้าหากฉันสละเวลาไปช่วยเขาสักนิด เขาก็คงไม่ถึงกับต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยแบบนี้ และก็คงไม่ต้องเป็นโรคนี้หรอก” ภรรยามองไปที่หลี่หมิงกวงซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ
ครั้งแรกที่ทำการรักษา หลี่หมิงกวงรับฟังคำแนะนำของคุณหมอที่โรงพยาบาลมาเลเซีย ตัดสินใจเลือกรักษาที่ญี่ปุ่น แต่ผลกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่พวกเขาคาดหวังเลย หลังจากรักษาอยู่ช่วงหนึ่ง อาการของเขาดีขึ้นบ้าง แต่กลับพบว่าเซลล์มะเร็งลามไปยังสมองอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่โชคดีก็คือ พวกเขาพบโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เมื่อผ่านการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว อาการของหลี่หมิงกวงก็ได้รับการควบคุม เทคโนโลยีอันก้าวหน้าและการบริการอย่างใส่ใจของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ทำให้หลี่หมิงกวงและภรรยาประทับใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับคุณหมอถัง คุณหมอเจ้าของไข้ พวกเขาได้ชื่นชมอยู่ไม่ขาดปาก "จำได้ว่าครั้งหนึ่ง แขนของสามีฉันเกิดการแพ้ และยังมีอาการท้องเสียด้วย หลังจากที่เราบอกอาการนี้กับคุณหมอถังแล้ว เขาก็รีบช่วยเหลือเราในทันที และยังเตือนพวกเราถึงสิ่งที่ควรระมัดระวังอย่างละเอียดด้วยความอดทน นอกจากนี้ เขายังช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันให้เราอีกด้วย ทำให้เรารู้สึกประทับใจมาก"
ที่ทำให้หลี่หมิงกวงและภรรยารู้สึกพอใจไม่ใช่แค่เทคโนโลยีและคุณหมอเท่านั้น ยังมีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย หลี่หมิงกวงเล่าว่า ห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลกว้างขวางมาก นอกจากผู้ป่วยจะสามารถพักอยู่ที่นี่แล้ว ญาติผู้ป่วยก็พักได้เหมือนกัน นี่ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อการดูแลผู้ป่วย แต่ยังสามารถประหยัดเงินค่าห้องพักได้ก้อนใหญ่อีกด้วย อีกทั้งห้องครัวที่โรงพยาบาลจัดให้สำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ ภรรยาของหลี่หมิงกวงบอกว่าพบเห็นได้น้อยมาก แต่กลับแสดงให้เห็นถึงการเข้าใจผู้ป่วย พวกเราสามารถไปจ่ายตลาดในระแวกใกล้ๆ อยากกินอะไรก็ทำ ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องอาหารการกินเลย