ผลการบำบัดและการเอาใจใส่ทำให้ความหวั่นกลัวหายไปเรื่อยๆ

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 ต้ายห้วยจ้าว ผู้มากจากอำเภอเล็กๆ ในประเทศกัมพูชา รู้สึกกล้มใจมากในอาการไออย่างไมได้ขาดในหลายวันมานี้ เขาสงสัยว่าสภาพร่างกายอาจจะผิดปกติ เลยไปตรวจที่มณฑลหม่าเต๋อว่าง ที่แรกคิดว่าเป็นการตรวจง่ายๆ ครั้งหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยคิดว่านายแพทย์บอกกับตัวเองอย่างกระทันหันว่า ตัวเองเป็นโรคมะเร็งปอด

เพื่อไม่ให้สามีและลูกๆ เป็นห่วง ต้าวห้วยจ้าวทำเป็นใจเย็นในบ้าน แต่เมื่อถึงเวลากลางคืน ต้ายห้วยจ้าวจะคิดว่าตัวเองอาจจะเสียชีวิตไปในวันรุ่งขึ้น และไม่มีวันที่เจอกับสามีได้ ไม่มีวันที่จะทำกับข้าวให้เด็กๆ ทานกันได้ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องเหล่านี้ ต้ายห้วยจ้าวอดที่จะกลัวไม่ได้ นับวันที่จะเสียชีวิตไป และต่อสู้กับมะเร็งวันแล้ววันเล่าเป็นชีวิตของต้ายห้วยจ้าวเมื่อเป็นโรคมะเร็ง

มะเร็งปอด

กำลังจะเสียครอบครัวที่รักสุดหัวใจ ?

เมื่อสามีของต้าวห้วยจ้าวได้ทราบว่าภรรยาเป็นโรคแล้ว ในขณะที่เขารู้สึกเสียใจ สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากที่สุดก็คือจะเสียภรรยาที่รักสุดหัวใจไป ดังนั้น เขาพาภรรยาไปตรวจร่างกายอย่างถี่ถ้วนที่ประเทศอีกครั้งหนึ่ง และได้รับการยืนยันว่าปอดขวาของภรรยามีเนื้องอกอันใหญ่อยู่ และเป็นมะเร็งปอดตอนปลาย เนื่องจากสามีของต้ายห้วยจ้าวไม่ไว้ใจในเทคโนโลยีการบำบัดของประเทศไทย เขาจึงพาต้ายห้วยจ้างไปบำบัดที่ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2012 ต้ายห้วยจ้าวได้รับเคมีบำบัด 6 ครั้งที่โรงพยาบาลเวียดนาม ทีแรกคิดว่าจะควบคุมอาการได้ แต่ไม่เคยนึกว่า หลังจากการทนผลข้างเคียงของเคมีบำบัดแล้ว เนื้องอกไม่ได้ลดน้อยลง กลับโตขึ้น 1/3 เมื่อเที่ยบกับหนึ่งเดือนก่อน ต้ายห้วยจ้าวและสามีจึงรู้สึกโอกาสที่รักษาได้ริบหรี่มาก ระหว่างช่วงเวลาที่ต่ายห้วยจ้าวรักษาที่เวียดนาม เขานับวันจะไอบ่อยขึ้น คุณภาพการนอนก็เลวลง ทุกคืนนอนหลับได้เพียง 2 ถึง 3 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ส่วนสามีก็ตื่นขึ้นทุกคืนด้วยฝันร้าย และต้องวิ่งไปดูว่าภรรยายังหายใจอยู่หรือเปล่า ถึงจะไปนอนต่อได้

มะเร็งปอด

เนื่องจากไม่ได้รับผลการบำบัดที่ดีในประเทศเวียดนามต้าวห้วยจ้าวกับสามีจึงกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชาเพื่อหาช่องทางรักษาอย่างอื่น นับตั้งแต่ได้ทราบโรคมะเร็งจนถึงทุกวันนี้ ต้ายห้วยจ้าว ซึ่งเคยเป็นผู้หญิอวบอิ่มกลับผอมลงมาก ส่วนสุขภาพจิตก็เลวลงเรื่อยๆ แม้แต่การล้างหน้าสีฟันก็ยังทำไม่ได้ ขึ้นลงบันได้ต้องมีคนมาประคองถึงจะทำได้ เมื่อสามีเห็นภรรยาต้องทนทรมานของโรคมะเร็ง สามีก็ปวดร้าวใจไม่น้อย ส่วนลูกชายของเขาพิศวงว่าทำไมมารดาที่เคยเป็นคนแข็งแรง ตอนนี้ต้อนนอนบนเตียงทุกวันและไม่สามารถทำกับข้าวที่เอร็ดอร่อยให้กับเขาแล้ว

วันที่ทรมานอย่างนี้ได้คลี่คลายลงเมื่อพวกเขาได้ทราบข้อมูลของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวจากโทรทัศน์ เนื่องจากหมดปัญญาจริงๆ ต้ายห้วยจ้าวและสามีจึงตัดสินใจไปเสี่ยงเพื่อหาการบำบัดที่ดีในนครกว่างโจว ประเทศจีน

ไม่หวั่นไหวอีกต่อไป เชื่อมั่นในการต่อสู้มะเร็ง

เมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 ต้ายห้วยจ้าวและสามีมาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว นายแพทย์ผางได้จัดการการตรวจให้ต้ายห้วยจ้ายทันทีเพื่อรับรู้อาการของเขาได้ดีขึ้น หลังจากการตรวจ นายแพทย์ยืนยันว่าต้ายห้วยจ้าวเป็นโรคมะเร็งปอดแบบเซลล์เล็ก 2/3 ของปอดขวาถุกเนื้องอกควบคุมอยู่ นายแพทย์ผางและผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้ปรึกษาหารือกันและวางแผนการบำบัดโดยรวมตามสภาพอาการของต้าวห้วยจ้าว ก่อนอื่นนายแพทย์จะใช้การบำบัดด้วยความเย็นเพื่อฆ่า 50%-60%เซลล์มะเร็ง ต่อมาจะดำเนินการอุดเส้นเลือดเฉพาะจุด 2 ครั้งเพื่ออุดกั้นเลือดไม่ให้เข้าสู่เซลล์มะเร็งเพื่อบรรลุเป้าหมายในการระงับและบำบัดเซลล์มะเร็ง

หลังจากการบำบัดโดยรวมแล้ว ต้ายห้วยจ้าวรู้สึกว่าอาการไอได้บรรเทาลง และไม่มีอาการหายใจลำบากแล้ว ส่วนการขึ้นลงบรรไดและการใช้ชีวิตประจำวันก็สามารภทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากสามี สิ่งที่ทำให้ต้าวห้วยจ้าวและสามีตื่นเต้นมากที่สุดก็คือ นายแพทย์ผางบอกให้พวกเขาทราบว่าเนื้องอกได้ลดน้อยลง 1/3 แล้ว เนื้องอกในบางบริเวณหายไปอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่นั้นมา ฉันกับสามีไม่กลัวอีกแล้ว เราคิดว่าเราจะสามารถเอาชนะมะเร็งได้ เนื่องจากผลการบำบัดที่ดี ความเชี่ยวชาญของนายแพทย์ผางและความดูแลอย่างถี่ถ้วนของพยาบาล ทำให้ต้ายห้วยจ้าวและสมีที่อยู่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวรู้สึกอบอุ่นใจ

มะเร็งปอด

กลับคืนสู่ชีวิตครอบครัว

ต้ายห้วยจ้าวและสามีเห็นว่านายแพทย์ พยาบาล ล่ามและสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวทำให้พวกเขาประทับใจมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาลจะทำกับข้าวตามสภาพของผู้ป่วยและมีกิจกรรมนอกห้องบ่อยครั้ง ต้ายห้วยจ้าวและสามีเคยเข้าร่วมกิจกรรมที่ไปเที่ยวถนนปักกิ่งหนึ่งวัน พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมของต่างประเทศแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเที่ยวข้างนอกยังสามารถทำให้ผู้ป่วยผ่อนคลายความเครียด และให้ผู้ป่วยได้รู้จักกัน แบ่งปันประสบการณ์การต่อสู้มะเร็งกัน และสนับสนุนและให้กำลังใจแก่กัน ทั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้ในโรงพยาบาลแห่งอื่น

เมื่อใกล้ที่จะออกจากโรงพยาบาล ต้ายห้วยจ้าวยิ่งคิดถึงบ้าน เมื่ออาการได้รับความควบคุ้มไว้แล้ว เขาอยากจะกลับบ้านเพื่อทำกับข้าวให้สามีและลูกๆ ทาน อยากชดเชยเวลาที่ขาดไปเนื่องจากตัวเองอยู่บนเตียง นอกจากนี้แล้ว เขายังอยากแบ่งปันประสบการณ์การต่อสู้มะเร็งกับผู้ป่วยที่กำลังทนความทุกข์ทรมานของมะเร็งอยู่ หากรู้สึกไม่สบายต้องไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลทันที อย่าเลื่อนเวลาจนทำให้อาการกำเริบ เขาอยากจะบอกให้ผู้ป่วยที่อยู่รอบตัวและญาติทั้งหลายทราบว่า มีโรงพยาบาลอยู่แห่งหนึ่ทั้งมีผลการบำบัดที่ดีและถือผู้ป่วยเป็นหลัก


มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด
มะเร็งตับ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งกระเพาะอาหาร
มะเร็งกระดูก
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งตับอ่อน
มะเร็งหลอดอาหาร
มะเร็งสมอง
มะเร็งช่องปาก
มะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งคอ
มะเร็งถุงน้ำดี
มะเร็งช่องคลอด
มะเร็งองคชาติ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งโพรงจมูก
มะเร็งลำไส้เล็ก
มะเร็งไต
มะเร็งทวารหนัก
มะเร็งอัณฑะ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Multiple myeloma
มะเร็งต่อมหมวกไต
มะเร็งกระดูกสันหลัง
มะเร็งลำไส้
มะเร็งตา
โรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
มะเร็งลิ้น
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งรังไข่
มะเร็งต่อมไทรอยด์
อาการโรคมะเร็ง การวินิจฉัยโรคมะเร็ง การรักษาโรคมะเร็ง
ผู้สื่อข่าวสำนักพิมพ์ไทยรัฐประเทศไทย เดินทางไปสัมภาษณ์โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวถึงเมืองกวางเจา และเห
โครงการ 2,000,000 บาท ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งของมูลนิธิบ่ออ้าย (ประเทศไทย)
งานมอบรางวัล “ผู้กล้าสู้มะเร็งประจำเดือนมีนาคม”
ผู้บริหารของโรงพยาบาลเราได้พบคุณห่าวซีซานสมาชิกสถาบันด้านวิศวกรรมแห่งประเทศจีน เพื่อเสาะหาความร่วมมือและการพัฒนา
กลุ่ม MDT ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีสุขภาพที่แข็งแรงและกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
นำโรงพยาบาลเข้าสู่มาตรฐาน JCI ยกระดับให้โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
สุขไปกับชีวิตสายการแพทย์ เติมเต็มคุณค่าของชีวิต
การฝังแร่ไอโอดีน เสียงสวรรค์ของผู้ป่วยมะเร็ง --การประชุมใหญ่ด้านเทคโนโลยีการรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่ไอโอดีนครั้งที่ 13 ณ ประเทศจีน