หากไม่ได้มารักษาโรคที่ประเทศจีน เราอาจจะไม่เชื่อว่าตัวเราเองจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เมื่อมะเร็งมาอยู่ในร่างกายภรรยาผม ครอบครัวเราโศกเศร้ามาก แต่เราก็ไม่ยอมแพ้กับมะเร็งซึ่งเป็นนักฆ่าที่โหดร้าย ในทางกลับกัน เราอยู่กับคุณหมอของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ร่วมกันตัดสินชะตากรรมให้กับมะเร็ง ทำให้มะเร็งห่างไกลจากพวกเรา ผมรักภรรยาผม ลูกๆ สามคนรักแม่ของพวกเขา คุณหมอรักผู้ป่วยของเขา ผมเชื่อว่าความรักที่ยิ่งใหญ่บวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะเป็นอาวุธที่สามารถเอาชนะมะเร็งได้ ผมอยากแบ่งปันประสบการณ์ของเราให้กับทุกคนและขอให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับมะเร็ง พวกคุณต้องชนะมะเร็งได้แน่นอน
เมื่อมะเร็งปอดรุกรานภรรยาของผม
เราอาศัยอยู่ที่โฮจิมินห์ในประเทศเวียดนาม ภรรยาผมชื่อกัวซื่อหวู่อายุ 54 ปี เป็นผู้หญิงที่ใจดี ขยันและเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง ผมทำงานที่องค์การรัฐแห่งหนึ่ง ส่วนกัวซื่อหวู่เปิดร้านขายวัตถุดิบอาหารทะเล เรามีลูกสาวสามคนและลูกชายหนึ่งคน ซึ่งต่างก็เชื่อฟังและรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไรบ้าง ทุกคนพยายามสู้เพื่อครอบครัว กิจการการงานและการเรียน ชีวิตเราทั้งสงบสุขและมีความสุขดี แต่ตั้งแต่ฤดูร้อนในปี 2010 ภรรยาผมรู้สึกปวดกระดูกไปทั้งตัวส่วนอกกับหลังก็ปวดเช่นกัน ผมพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลที่เมืองโฮจิมินห์ คุณหมอแต่ละคนก็มีความคิดเห็นที่ต่างกัน บางคนบอกว่าภรรยาผมเป็นแคลเซียมเกาะที่กระดูก บางคนบอกว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แม้ว่าภรรยาจะได้ทานยาไปบ้าง แต่ก็ไม่มีผลใดใด อีกทั้งยังปวดหนักขึ้นทุกวันจนทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน เมื่อวันที่ 20 เดือนเมษายน ปี 2011 ผมสงสัยว่าคุณหมอจะวินิจฉัยไม่ถูกต้อง จึงพาภรรยาไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าการตรวจครั้งนี้จะทำให้ความสงบสุขของครอบครัวพังทลายลงไป จากผลตรวจของCTและการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา พบว่าปอดของกัวซื่อหวู่มีเนื้องอกและได้ลามไปกระดูกทั่วร่างกายแล้ว เมื่อได้รับทราบข่าวนี้ ทุกคนในครอบครัวล้วนตกอยู่ในสภาพโศกเศร้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ลูกๆ ไม่เคยคิดเลยว่าแม่จะเป็นโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้ ทุกครั้งที่คิดว่าแม่จะจากพวกเขาไป ลูกๆ ก็จะร้องไห้ด้วยความเสียใจขึ้นมา
เมื่อพบโรงพยาบาลมะเร็ง เราก็มองเห็นความหวัง
ผมรีบพากัวซื่อหวู่ไปโรงพยาบาลแห่งนี้ทันที จากนั้นผมต้องใจเย็นให้มากขึ้น ช่วงเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ภรรยาได้รับการวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งและปรากฎว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อีกทั้งเซลล์มะเร็งได้ลามไปถึงกระดูกและสมองหลายจุด ดังนั้นด้วยอุปกรณ์และเงื่อนไขที่โรงพยาบาลมีอยู่นั้นจึงไม่สามารถรักษาโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราทุกคนเฝ้าอยู่ข้างๆ ภรรยาอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นภรรยาผอมลงทุกวันและปวดทั้งร่างกายจนไม่สามารถแม้แต่จะเข้าห้องน้ำได้เอง ผมคิดว่าผมไม่สามารถยืดเวลาการรักษานี้ออกไปได้แล้ว ผมจึงไปซื้อวารสารและหนังสือพิมพ์ต่างๆ หวังว่าจะพบข้อมูลที่เกี่ยวกับการรักษามะเร็ง สุดท้ายโชคก็เข้าข้างเรา เราเห็นบทความแนะนำโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวที่มีเทคโนโลยีทันสมัยในการรักษามะเร็งในหนังสือพิมพ์เยาวชนชองเมืองโฮจิมินห์ ผมรีบนำผลวินิจฉัยของภรรยาไปสำนักงานที่เมืองโฮจิมินห์ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวตามที่หนังสือพิมพ์แนะนำ เมื่อคุณหมออ่านผลวินิจฉัยของภรรยาอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอบอกข่าวที่น่าอัศจรรย์ใจกับผมว่า เขามีวิธีที่จะช่วยชีวิตภรรยาผมได้ ครอบครัวเราจึงตัดสินใจทันทีว่าผมกับลูกชายจะพาภรรยาไปรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
การรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
หลายวันต่อมา เรามาถึงเมืองกว่างโจวที่ประเทศจีน เมื่อถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว คุณหมอเผิง หัวหน้าแผนกมะเร็งก็จัดทีมผู้เชี่ยวชาญมาตรวจอาการของภรรยาผมอย่างละเอียด ผลวินิจฉัยคือเป็นโรคมะเร็งปอดชนิด poorly differentiated ที่ลามไปถึงปอดสองข้าง สมองและกระดูกอีกหลายจุด เมื่อภรรยามาถึงประเทศจีน สภาพร่างกายของเธออ่อนเพลียมากและไม่ค่อยมีสติเท่าไร คุณหมอหม่าแพทย์เจ้าของไข้ยึดตามสภาพร่างกายของภรรยาผมวางแผนการรักษาโดยใช้วิธีการอุดหลอดเลือดเฉพาะจุดและการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด หลังจากนั้นก็เสริมโดยใช้ยารักษาเป็นการรักษาแบบบูรณาการ
คุณหมอยังได้อธิบายเทคนิคและความเป็นไปได้ของแผนการนี้ให้ผมฟังอย่างละเอียด การอุดหลอดเลือดเฉพาะจุดหมายถึงการอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้องอกทำให้เนื้องอกไม่มีอาหารไปเลี้ยง ส่วนวิธีการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัดหมายถึงการนำเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมาสู้กับเซลล์มะเร็งเพื่อเอาชนะให้ได้ ผมรู้สึกแปลกใหม่กับวิธีการรักษาทั้งสองวิธีนี้ แต่ผมก็เชื่อมั่นในตัวคุณหมอ หลังจากการรักษาเป็นเวลาหนึ่งเดือน อาการภรรยาผมเริ่มดีขึ้น สีหน้าก็แจ่มใสขึ้นทุกวัน อีกทั้งยังชอบมาพูดคุยกับผม ผลการตรวจอีกครั้งเป็นผลที่เราคาดไม่ถึง เนื้องอกที่ปอดของภรรยาหายไปหมดแล้ว มะเร็งปอดที่เป็นศัตรูร้ายก็หนีจากไปในที่สุด
สามเดือนผ่านไป เรามาตรวจร่างกายที่ประเทศจีนด้วยสุขภาพที่แข็งแรง
หลังจากการผ่าตัดครั้งนั้น โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวก็ให้ยาป้องกันมะเร็งแก่เราเพื่อนำกลับไปทานที่บ้าน เรากลับบ้านอย่างมีความสุขและมั่นใจ โดยทานยาและอาหารตามที่คุณหมอสั่ง สามเดือนผ่านไป เรามาถึงเมืองกว่างโจวที่ประเทศจีนอีกครั้ง เวลานี้สีหน้าของภรรยาผมสดชื่นขึ้นมากและแม้ว่าจะยังเดินไม่คล่องเท่าไรนัก แต่ก็สามารถเดินได้แล้ว คุณหมอหม่าตรวจร่างกายให้ภรรยาผมอีกครั้งหนึ่ง เนื้องอกที่ปอด สมองและกระดูกหายไปหมดแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เราขอบคุณโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเป็นอย่างยิ่ง คุณหมอมีเทคนิคที่เชี่ยวชาญและตั้งใจตรวจอย่างละเอียด ส่วนพยาบาลทั้งหลายก็ทำหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้จึงทำให้เราประทับใจและรู้สึกชื่นชม ภรรยาผมเป็นคนชอบทำบุญ ตอนนี้เธอเห็นว่าสิ่งที่เธอควรทำมากที่สุดก็คือแบ่งปันประสบการณ์การต่อสู้มะเร็งกับทุกคน และหวังว่าเพื่อนชาวเวียดนามที่เป็นมะเร็งจะสามารถมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ เชื่อในตัวพวกเขาและเราจะได้รับความช่วยเหลือ
กัวซื่อหวู่ ภรรยาผมถ่ายรูปกับคุณหมอของโรงพยาบาล