ผมพบว่ามีก้อนเนื้ออยู่ในตับตอนตรวจสุขภาพตามกำหนดในปีพ.ศ.2552 นับจากตอนนั้นผมกับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวก็มีความผูกพันกันเรื่อยๆมา การมาตรวจที่โรงพยาบาลในทุกๆ ปีได้กลายเป็นการเดินทางประจำปีของผมไปแล้ว จากการแนะนำของผู้ป่วยท่านหนึ่งในช่วงแรกๆ ผมกับคนในครอบครัวจึงได้รู้จักโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว แต่เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลของต่างชาติ ความรู้สึกไม่เชื่อมั่นและความสงสัยจึงประดังเข้ามาอยู่เต็มภายในใจผม แต่เพื่อได้รับการรักษาที่ดีกว่า ผมจึงลองไปขอรับการรักษาที่กว่างโจว ประเทศจีน
ช่วงเวลาสี่ปีในการรักษา โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้แสดงให้ผมเห็นว่า : นี่คือโรงพยาบาลที่มีเทคโนโลยีดี การบริการดี สิ่งแวดล้อมดี ยังจำได้ว่าเที่ยงคืนคืนหนึ่ง อยู่ๆ ตับของผมก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างรุนแรง ภรรยาผมรีบกดปุ่มขอความช่วยเหลือ แม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้ว แต่คุณหมอและพยาบาลต่างก็รีบช่วยผมรักษาอาการที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือเกิดความรู้สึกดีเป็นอย่างมาก
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวไม่เพียงให้การรักษาเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมนอกสถานที่อีกด้วย เช่น ร้องเพลงบนภูเขาไป๋หยุน เที่ยวชมบรรยากาศยามค่ำของแม่น้ำจูเจียง ท่องเที่ยวอ่าวลี่จือ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มาก ไม่เพียงช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของผู้ป่วย ยังทำให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความสวยงามของชีวิต ซึ่งส่งผลดีอย่างมากต่อการสู้กับมะเร็ง
ในช่วงที่อยู่โรงพยาล คุณหมอและพยาบาลให้การรักษาและดูแลผมอย่างดี แต่ในที่นี้ผมอยากพูดถึงคุณหมอหลินจิงเป็นพิเศษ เธอเป็นแพทย์ประจำตัวของผม คุณหมอหลินเป็นผู้หญิงที่อบอุ่นใจดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคุณหมอที่มีเมตตากรุณา ทุกวันเธอจะมาที่ห้องผู้ป่วย ใส่ใจความคืบหน้าของอาการและผลการรักษาของผม ตอบปัญหาและอธิบายขั้นตอนการรักษาให้ผมในทันที คอยเตือนเรื่องอาหารการกินที่ต้องระมัดระวัง เวลาที่ผมทุกข์ทรมานกับมะเร็ง คุณหมอหลินไม่เพียงให้กำลังใจผมให้กล้าหาญต่อสู้กับมะเร็งตับเท่านั้น หลายครั้งเธอยังแอบร้องไห้เพื่อผมอย่างเงียบๆ เจ็บใจและโทษตัวเองที่ไม่สามารถช่วยผมแบกรับความเจ็บปวดนี้ คุณหมอหลินมีจิตใจเมตตาอันสูงส่ง ผมขอบคุณเธอมาก และขอบคุณโรงพยาบาลมากด้วยเช่นกัน ผมจะต่อสู้กับมะเร็งตับต่อไปอย่างเข้มแข็ง และหวังว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกมากมายจะเผชิญหน้ากับโรคนี้ด้วยการมองโลกในแง่ดีไปพร้อมกับผม
หรวนโหย่วเซิ่งแบ่งปันประสบการณ์การต่อสู้กับมะเร็ง
หรวนโหย่วเซิ่งถ่ายรูปร่วมกับภรรยา