เมื่อวันที่ 14 เดือนกรกฎาคม ช่วงที่คณะนักข่าวจากฟิลิปปินส์มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหัวหน้าเผิงและผู้อำนวยการหวังจึงได้ทราบเพิ่มเติมว่าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเป็นโรงพยาบาลสากล ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ การสาธิตการผ่าตัดด้วยการฝังแร่ไอโอดีนและการใช้ความเย็น ทำให้นักข่าวทราบว่าการผ่าตัดแบบบาดแผลเล็กคืออะไร อีกทั้งความเชี่ยวชาญและการประสานงานของคุณหมอทุกคนยิ่งทำให้นักข่าวชื่นชมไม่น้อย จนทำให้หลังจากการผ่าตัดจบลง นักข่าวก็ยังคงสนทนาเรื่องนี้ด้วยความประหลาดใจกันอยู่
ต่อมาช่างได้ตั้งกล้องในตำแหน่งที่เหมะสมอย่างว่องไว ส่วนนักข่าวก็เอาบทสัมภาษณ์ที่เตรียมไว้แล้วออกมาและสนทนากันเกี่ยวกับคำถามที่จะถาม ทั้งนี้ก็เพื่อต้อนรับผู้ป่วยมะเร็งจากประเทศฟิลิปปินส์ที่กำลังจะมาถึง ก่อนที่ผู้ป่วยจะให้สัมภาษณ์ เพื่อป้องกันในเรื่องความลับส่วนตัวของผู้ป่วย โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้อธิบายสาเหตุและจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ให้ผู้ป่วยฟังและจัดการการสัมภาษณ์หลังจากที่ได้รับการตกลงจากผู้ป่วยแล้ว
ความลำบากในการต่อสู้มะเร็ง
หลังจากการรอคอยของผู้สื่อข่าว ผู้ป่วยก็มาถึงห้องประชุมโดยมีพยาบาลติดตามมาด้วย ผู้สื่อข่าวสนทนากับผู้ป่วยด้วยภาษาฟิลิปปินส์และเริ่มสัมภาษณ์ทันที นายหยาง ผู้ป่วยมะเร็งตับเป็นคนแรกที่ให้สัมภาษณ์ หัวหน้าสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งชาติของประเทศฟิลิปปินส์ถามว่าประเทศฟิลิปปินส์นั้นมีโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งประเทศจีนเองก็มีโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมถึงเลือกโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ส่วนผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ TRIBUNE ก็ได้ถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาและผลการรักษาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากได้ยินคำถามทั้งสองข้อนี้ นายหยางยิ้มกับภรรยาและเริ่มเล่าประสบการณ์การต่อสู้มะเร็งให้ทุกคนฟัง
เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว นายหยางพบว่าต่อมน้ำเหลืองที่ลำคอข้างซ้ายบวมใหญ่ขึ้นจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลแถวบ้าน แต่ไม่พบอาการผิดปกติ ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม นายหยางรู้สึกปวดท้องส่วนล่างด้านขวาเป็นบางครั้ง แต่นายหยางก็ไม่ได้ทำการตรวจหรือการรักษาใดๆ จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน อาการปวดท้องหนักขึ้นทุกที ดังนั้นนายหยางจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลการตรวจ CT ระบุว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่ตับ แต่นายหยางก็ยังไม่ทำการรักษาใดๆ หลังจากกลับไปที่บ้าน สุขภาพร่างกายของเขาทรุดโทรมไปมาก ท้องข้างขวามีอาการปวดรุนแรงอยู่บ่อยๆ นายหยางจึงได้ปรึกษาหารือกับภรรยาว่าจะไปรักษาที่โรงพยาบาล และหลังจากที่เปรียบเทียบโรงพยาบาลอยู่หลายแห่ง นายหยางและภรรยาต่างสับสนเพราะไม่รู้ว่าจะไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งไหนดี หลังจากนั้นด้วยความบังเอิญ นายหยางทราบว่าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดบริษัทการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และได้ตั้งสำนักงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ด้วย นายหยางและภรรยาจึงไปปรึกษาที่สำนักงาน นอกจากนี้แล้ว นายหยางยังทราบจากผู้ป่วยชาวฟิลิปปินส์ที่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลว่า โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้นนายหยางและภรรยาจึงตัดสินใจไปรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวในที่สุด
เทคโนโลยีที่ทันสมัยนำมาซึ่งความหวัง
เมื่อวันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน 2554 นายหยางและภรรยาได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเป็นครั้งแรก คุณหมอรีบดำเนินการตรวจให้นายหยาง ผลการตรวจ CT ระบุว่านายหยางเป็นมะเร็งตับ ทีมผู้เชี่ยวชาญเปิดประชุมการรักษาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อวางแผนการรักษาตามอาการของนายหยาง ในที่สุดคุณหมอเลือกใช้การรักษาเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือด การใช้ความเย็นและการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัดในการรักษามะเร็งตับ ในขณะเดียวกันยังใช้ยาแผนจีนเพื่อปรับสมดุลร่างกายของนายหยาง หลังจากการรักษาอยู่หลายครั้ง เนื้องอกมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งได้บรรเทาความเจ็บปวดให้นายหยางและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วย
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ห้าที่นายหยางมาตรวจที่โรงพยาบาลแห่งนี้ นายหยางบอกให้นักข่าวทราบว่าเขาเคยปรึกษาโรงพยาบาลหลายแห่งเกี่ยวกับวิธีการรักษา แต่โรงพยาบาลเหล่านี้ล้วนใช้วิธีการรักษาเพียงวิธีเดียว มีแต่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเท่านั้นที่ใช้วิธีการรักษาที่ล้ำสมัยหลายวิธีมารวมกันและระหว่างกระบวนการการรักษายังผสมผสานวิธีทางแพทย์แผนจีนด้วย หลังจากการที่ปรับสมดุลร่างกายโดยใช้ยาแผนจีน สุขภาพร่างกายก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะวิธีการรักษา “แบบบาดแผลเล็ก บูรณาการระหว่างแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน” นั้น ทำให้ตัวเองไม่กลัวการผ่าตัดอีกแล้ว
ปัจจุบันสุขภาพของนายหยางดีขึ้นเรื่อยๆ นายหยางบอกกับนักข่าวว่าเมื่อเผชิญหน้ากับโรคภัยไข้เจ็บ ผมเคยคิดจะยกเลิกการรักษาทั้งหมด แต่รูปแบบการรักษาใหม่ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวนั้นกลับทำให้ผมมีความมั่นใจในการต่อสู้มะเร็งมากขึ้น