เมื่อเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย พวกเราเห็นผู้หญิงใส่หมวกสีน้ำเงินคนหนึ่งกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ด้วยรอยยิ้มที่สดใส หากไม่ใช่เพราะหมวกใบนั้นเราคงจะไม่รู้ว่าเธอคือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพราะใบหน้าของเธอไม่แสดงความกังวลใดใดหรือความเจ็บปวดเลย ต่อให้เพราะความเจ็บปวดจากการฉายแสงที่ทำให้ผมร่วงไปหมด ต่อให้การผ่าตัดทำให้เธอสูญเสียเต้านมด้านขวาไป แต่เธอกลับใช้เพียงรอยยิ้มสลายความเจ็บปวดเหล่านั้นและแววตาสดใสของเธอแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นภายในจิตใจ
เมื่อพบมะเร็งเต้านม
ผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นคนนี้ก็คือหงลี่ลี่ (ANG LILI)จากอินโดนีเซีย ปีนี้อายุ 52 ปี ในเดือนพฤษภาคม 2556 หงลี่ลี่เธอพบว่าเต้านมของเธอมีก้อนเนื้อ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สาม น้องชายของเธอเกรงว่าพี่สาวจะทำใจให้ยอมรับกับความจริงไม่ได้ จึงไม่กล้าบอกความจริง บอกเพียงว่าเป็นโรคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้พี่สาวของเขายังคงมีความสุขในทุกๆ วันเหมือนเช่นที่ผ่านมา
น้องชายเริ่มเสาะหาโรงพยาบาลรักษามะเร็งทุกหนทุกแห่งที่มีผลการรักษาที่ดี ถึงแม้ว่าโฆษณาของโรงพยาบาลรักษามะเร็งจะมีมากมาย ไม่ว่าไปที่ไหนก็สามารถพบเห็นได้ แต่น้องชายก็ไม่กล้านำชีวิตของพี่สาวเธอไปฝากไว้กับคำโฆษณาง่ายๆ และโดยความบังเอิญ น้องชายของเธอได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นมะเร็งเต้านมเหมือนกัน และได้ผลการรักษาที่ดีเมื่อรักษากับโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว และเนื่องด้วยรับรู้โดยตรงจากเพื่อนตัวเอง น้องชายจึงไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะเลือกโรงพยาบาลนี้ ดังนั้นแล้วเขาจึงจัดการเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวอย่างเงียบเงียบ ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ทำวีซ่า ติดต่อกับคุณหมอ เป็นต้น และบอกกับพี่สาวว่าไปจีนก็เพียงเพื่อไปผ่าตัดเล็กๆ เท่านั้น พี่สาวของเขาเชื่อในตัวเขามาก จึงไม่มีความสงสัยใดใดเลย
การทำคีโมเฉพาะจุดและการผ่าตัด
หงลี่ลี่บอกว่า “ถึงแม้ว่าเนื้องอกที่อยู่ในร่างกายฉันจะค่อยๆ เติบโตขึ้น แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ทั้งกินนอนได้ปกติมาก และที่สำคัญที่สุดคือในใจฉันไม่มีความกดดันใดใด เพราะว่าฉันไม่รู้อะไรเลย ขอบคุณน้องชายที่ดูแลฉัน” ในเดือนกรกฎาคม 2556 หงลี่ลี่มาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เนื้องอกของเธอมีขนาดใหญ่กว่า 10 ซ.ม. หงลี่ลี่เลือกวิธีการผ่าตัดออกทั้งหมดเพราะเธอคิดว่าเป็นการกำจัดมะเร็งที่ดีที่สุด หงลี่ลี่บอกว่า “เนื่องด้วยก้อนเนื้อมีขนาดที่ใหญ่ คุณหมอจึงเลือกทำคีโมเฉพาะจุดให้กับฉันก่อน เพียงครั้งแรกหลังจากทำคีโมเฉพาะจุดเสร็จ เนื้องอกก็มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด” คุณหมอเจ้าของคนไข้ คุณหมอหูอิ๋งแนะนำว่า “การทำคีโมเฉพาะจุดเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่หลายชาติต่างใช้ ในปัจจุบันถูกใช้อย่างกว้างขวางในการรักษามะเร็ง เทคโนโลยีนี้สามารถนำยาส่งไปยังเซลล์มะเร็งได้โดยตรง จึงทำให้ยามีความเข้มข้นเพิ่มขึ้น 2-8 เท่า วิธีการนี้สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งมีผลข้างเคียงน้อยด้วย”
“ในเดือนกันยายน 2556 ฉันได้ทำการผ่าตัดเต้านมออกหมด ถึงแม้ว่าฉันจะต้องสูญเสียเต้านมข้างขวาไป แต่การผ่าตัดก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อีกทั้งการฟื้นฟูหลังผ่าตัดก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว” หงลี่ลี่บอกพวกเราด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวแม้แต่น้อย เพราะว่าหลังจากผ่าตัด ร่างกายของฉันแข็งแรงมาโดยตลอด ไม่มีอาการผิดปกติอะไร ต้องขอบคุณครอบครัวของฉันที่ดูแลมาตลอด ขอบคุณทุกคนที่นี่ เป็นโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยความห่วงใย พวกเราเลือกโรงพยาบาลถูกแล้ว” ถึงตอนนี้หงลี่ลี่จะยังไม่เคยแต่งงาน และก็ยังไม่เคยมีลูก แต่เธอกลับเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและมีความมุ่งมั่นมาก เธอหวังว่าผู้ป่วยทุกคนจะกล้าเผชิญหน้ากับโรคของตัวเอง และในที่สุดก็จะสามารถยิ้มรับกับวันใหม่ที่สดใสได้
หงลี่ลี่ถ่ายภาพร่วมกับบุคลากรของโรงพยาบาล
คุณหมอหูอิ๋งตรวจร่างกายให้หงลี่ลี่