ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า พระเจ้าจะใช้วิธีนี้มาทดสอบชีวิตของฉัน ในปี 2011 ฉันถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายและยังมีการลุกลามไปที่กระดูกตอนอยู่ที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย คุณหมอบอกให้ฉันทำใจในการรักษา และบอกด้วยว่าฉันมีชีวิตเหลืออีกแค่ 3-6 เดือนเท่านั้น น้ำตาอาบเต็มใบหน้าของฉัน ฉันกลัวที่จะต้องตายและจากครอบครัวของฉันไป ในตอนนั้นฉันไม่สามารถทำอะไรเองได้เลย ทำได้เพียงแต่นอนบนเตียงทนทุกข์ทรมานจากมะเร็งเต้านม ฉันรู้สึกได้เลยว่าเทพแห่งความตายใกล้ฉันเข้ามาทุกทีๆ จนถึงตอนนี้สองปีมาแล้ว เมื่อใดที่ฉันนึกย้อนกลับไปในเวลาอันแสนเจ็บปวดนั้น ก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลออกมา ทั้งความเจ็บปวดของร่างกายพร้อมกับจิตใจที่สิ้นหวัง มันทำให้ชีวิตของฉันกลายเป็นความมืดที่ไร้แสงสว่าง
ชีวิตที่หันเห
ตอนที่ฉันอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวด ก็มีโอกาสมาเยือนโดยบังเอิญ เพื่อนของฉันแนะนำโรงพยาบาลที่รักษามะเร็งโดยเฉพาะ น้องชายของเพื่อนฉันก็รับการรักษาที่นี่แล้วผลการรักษาก็มีประสิทธิภาพ ดังนั้นฉันจึงหอบเอาความหวังไปที่สำนักงานของโรงพยาบาลนี้ที่เมืองเมดาน ฉันนำผลการตรวจไปให้คุณหมอที่สำนักงานดู และหลังจากที่ท่านสอบถามอาการของฉันอย่างละเอียด คุณหมอก็บอกแนวทางการรักษา เมื่อได้ยินถึงแนวทางการรักษาใหม่ๆมากมายที่ไม่ต้องผ่าตัด ฉันจึงตัดสินใจเดินทางไปรักษาที่ประเทศจีน อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ทอดทิ้งฉัน!
ชีวิตมีหวัง
ในวันที่ 11 เดือนตุลาคม ปี 2011 ฉันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว หลังจากที่ผ่านการตรวจร่างกายแบบต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย คุณหมอหลินชิง คุณหมอเจ้าของไข้แผนกมะเร็ง หัวหน้าแพทย์ซุนจวิน และผู้เชี่ยวชาญด้านการการรักษาเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือด ด้านการรักษาแบบแพทย์แผนจีน ด้านพยาธิวิทยา เป็นต้น ร่วมกันปรึกษาเพื่อหาแนวทางการรักษาให้กับฉัน โดยยึดตามอาการของฉัน พวกเขานำการรักษาวิธีต่างๆ มาผสมผสานกัน เพื่อให้ได้สิ่งดีที่สุดในการรักษา ในวันที่ 13 ตุลาคม คุณหมอรักษาด้วยวิธีการใช้ความเย็นก่อนเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง หลังจากนั้นวันที่ 18 ตุลาคม ก็รักษาด้วยวิธีให้คีโมเฉพาะจุดต่อเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่เหลืออยู่ หลังจากนั้นก็ให้คีโมเฉพาะจุดและฉายแสงอีกครั้ง นั่นทำให้อาการของฉันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากที่ขยับไม่ได้เลยก็เริ่มลุกลงจากเตียงได้ ทำทุกอย่างด้วยตัวฉันเอง ผลการรักษาที่ดีแบบนี้ทำให้ฉันมีความหวังเป็นอย่างมาก และเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2013 ฉันก็รับการรักษาด้วยการฝังแร่และการใช้ความเย็นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจัดการกับเซลล์มะเร็งที่มีการลามไปที่กระดูกของฉัน วิธีการรักษาที่ฉันใช้ทั้งหมดนี้เป็นวิธีผ่าตัดแบบบาดแผลเล็ก ไม่ต้องผ่าตัดขนาดใหญ่ แผลเป็นก็เล็กนิดเดียว อีกทั้งเจ็บปวดน้อย ในสามปีมานี้ ช่วงเว้นที่ต้องไปตรวจซ้ำก็นานมากขึ้น ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายของฉันแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันทำตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง กินยาตรงเวลาและไปตรวจซ้ำตามกำหนด
ในช่วงที่ฉันรักษาตัวที่โรงพยาบาล ชีวิตของฉันก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไร ฉันมักจะไปเข้าร่วมกิจกรรมของโรงพยาบาล เดินซื้อของที่ถนนเป่ยจิง ในเมืองกว่างโจว เป็นความทรงจำดีดีมากมายที่ที่นี่ให้ไว้กับฉัน
เพราะว่าฉันไม่ได้ละทิ้งชีวิตและความหวัง ดังนั้นจึงผ่านบททดสอบที่ยากนี้ไปได้ คำพูดที่ว่าฉันอยู่ได้แค่ 3-6 เดือนนั้นถูกลบออกไป ฉันยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ฉันขอบคุณทุกๆ คนที่คอยช่วยเหลือ และก็ต้องขอบคุณตัวเองและครอบครัวที่ไม่เคยทิ้งฉัน ทำให้ฉันได้รับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง