นายหวู่ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะจากเวียดนามที่เป็นโรคนี้มา 2 ปีแล้ว เพื่อได้รับการรักษาที่ดียิ่งขึ้น เขาจึงมาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 เป็นครั้งแรกที่นายหวู่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างได้ร่วมกันตรวจและกำหนดแผนการการรักษาแบบบูรณาการ โดยเลือกใช้เทคโนโลยีการฉายแสงเลเซอร์มารักษาโรคมะเร็ง เมื่อเดือนตุลาคม นายหวู่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง ผู้เชี่ยวชาญได้รักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด การรักษาโดยให้ความร้อนในร่างกายผสมผสานกับการรักษาเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือดตามอาการของนายหวู่ ซึ่งทำให้อาการป่วยของนายหวู่ได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี ภายใต้การดูแลรักษาที่ดีของนางพยาบาล ต่อมาไม่นาน นายหวู่ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้
เมื่อครั้งที่สองที่เข้าโรงพยาบาล ครอบครัวของนายหวู่กังวลว่าสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลและการบริการจะไม่ได้ดีอย่างที่นายหวู่เล่าให้ฟัง จีงตามนายหวู่มาด้วย ช่วงเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล ครอบครัวของนายหวู่ก็ได้เข้าร่วมบริการพิเศษของโรงพยาบาล ซึ่งก็คือการเข้าร่วมทัวร์เที่ยวเมืองกว่างโจว 1 วัน โดยไปเที่ยวสวนสาธารณะเยว่ซิ่ว สัมผัสกับวัฒนธรรมและทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองกว่างโจว ช่วงระยะเวลาที่มีบุคลากรทางการแพทย์คอยเฝ้าอยู่ดูแลหลายวันนี้ ทำให้ครอบครัวของนายหวู่ซาบซึ้งกับการบริการและน้ำใจจากโรงพยาบาลมาก จึงวางใจให้ลูกชายเพียงคนเดียวคอยเฝ้านายหวู่ที่กว่างโจว ส่วนคนอื่นก็กลับเวียดนามไปก่อน
หลังจากที่ครอบครัวกลับไปบ้านแล้ว นายหวู่คิดว่า ตนเองไม่จำเป็นต้องพักอยู่ที่ห้องพักอันใหญ่โตเช่นนี้ จีงอยากย้ายออกจากห้อง VIP ไปพักที่ห้องธรรมดา หัวหน้าพยาบาลก็จัดการย้ายห้องทันที เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลให้ผู้ป่วย แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แต่กลับทำให้นายหวู่ซาบซึ้งกับความจริงใจและน้ำใจของบุคลากรในโรงพยาบาล ทุกๆ คนอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว ที่ไม่เคยคิดว่าเป็นผู้ใด มาจากประเทศใด ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาล นายหวู่ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง เพื่อแสดงความรู้สึกของตนเองไว้ด้วย