การรักษาโรคกระดูกแบบบุกรุกน้อยคือการใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด แำผลเล็กซึ่งเป็นเทคนิคนำหน้าโลกมารักษาโรคกระดูกโดยมีข้อดีคือกา่ร บุกรุกน้อย ปลอดภัย ฟื้นฟูตัวเร็ว เป็นต้น
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบบุกรุกน้อยที่ นำหน้าโลกมารักษาโรคกระดูกชนิดต่างๆโดยมีดังนี้ เทคนิคกล้องส่องด้านข้างหมอนรองกระดูกสันหลัง เทคนิคกล้องส่องด้านหลังหมอนรองกระดูกสันหลัง:การแทงทะลุผิวหนัง ตัดออกนิวคลีออยด์( Nucleoid) เทคนิคการละลายนิวคลีออยด์(Nucleoid)การสร้างรูปร่างด้วยก๊าซพลาสมา(gas plasma) และการจี้ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง(Radiofrequency ablation) เทคนิคการลดความดันของหมอนรองกระดูกสันหลังด้วยเลเซอร์ สารกึ่ง ตัวนํา(semiconductor laser) เป็นต้น
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวมีอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่เช่น เครื่องถ่ายเอซเรย์ลักษณะแขนC กล้องส่องเข้าในร่างกายที่นำเข้าจากต่างประเทศ กล้องส่องด้านข้างหมอนรองกระดูกสันหลังและ กล้องส่องด้านหลังหมอนรองกระดูกสันหลังที่นำเข้าจากประเทศเยอรมัน เครื่องการรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง เทคนิคการฉีดโอโซนผ่านแทงทะลุผิวหนัง เครื่องการรักษาด้วยmicrowave therapy apparatus ใบมีดไฟฟ้าความถี่สูง เป็นต้น เพื่อประสบผลการรักษาที่ประสิทธิภาพ สูงสุด
การรักษาโรคกระดูกแบบบุกรุกน้อยเหมาะสมรักษากับโรคกระดูกทั่วไป โดยฉะเพาะโรคกระดูกที่พบบ่อย เช่น โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท โรคกระดูกสันหลังคอเสื่อม และโรคข้อสะโพกขาดเลือดเสี่อมตาย
1.โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทเป้นโรคที่เกิดจาก แอนนูลัส ไฟโบรลัส(Anulus Fibrosus) แตกตัวทำให้หมอนรองกระดูกรั่วออกมา และกดทับเส้นประสาท ก่อให้เกิดอาการหลักเป็นปวดเอวปวดขา
2.โรคกระดูกสันหลังคอเสื่อมคือ กระดูกสันหลังหดตัวเปลี่ยนรูปร่างและ เป็นบ่อเกิดทำให้ท่อกระดูกสันหลัง คอ เปลี่ยนรูปร่าง แคบลง ทำให้เกิดการกระตุ้นและกดทับบริเวณ เส้นประสาทจึงทำให้เกิดโรคขึ้น
3.โรคข้อสะโพกขาดเลือดเสี่อมตายโดยส่วนมากเกิดจาก โรคไขข้อ โรคเลือด โรคดำน้ำและแผลไฟไหม้ ซึ่งโรคเหล่านี้จะทำลาย การไหลของเลือดที่เนื้อเยื่อที่อยู่ระหว่างข้อต่อใกล้เคียง ต่อมาก็ทำให้ข้อสะโพกขาดเลือดเสี่อมตาย
1.โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท วิธีการรักษาโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาททั่วไปมักจะ เปิดแผลใหญ่ ต้องการพักโรงพยาบาลนาน และผู็ป่วยฟื้นตัวช้า จึงกำลังถูกแทนที่ด้วย การรักษาโรคกระดูกแบบบุกรุกน้อยโดยรวมถึง การรักษาแบบไม่เปิดแผล การรักษาแบบเปิดแผลเล็กด้านเงียงหลังร่างกาย และ การรักษาแบบเปิดแผลเล็กด้านหลังร่างกาย
(1)การรักษาแบบไม่เปิดแผล การรักษาประเภทนี้คืิอทำต่อนิวคลีออยด์ที่ในหมอนรองกระดูกเพื่อให้แรงดันออสโมซิสของนิวคลีออยด์ลดลง ให้หมอนรองกระดูกกลับเป็นตั้งเดิมหรือน้อยลง บรรเทาหรือแก้ความกดทับที่มีต่อเส้นประสาท บรรลุเป้าหมายลดอาการป่วย โดยยังมีข้อเด่นคือเปิดแผลเล็ก ฟื้นฟูตัวเร็ว ไม่มีการยึดเกาำะแผลและไม่ทำลายความมั่นคงของกระดูกสันหลัง
(2) การรักษาแบบเปิดแผลเล็กด้านเงียงหลังร่างกาย โดยการเปิดแผลเล็กคีมหรือดูดออกนิวคลีออยด์เพื่อลดความดันของ หมอนรองกระดูกซึ่งสามารถเปลี่ยนทิษทางของกรวยกระดูกสันหลัง ทำให้กรวยกระดูกสันหลังกลับไปตำแหน่งที่เดิมหรือลดการกระตุ็นของเส้นประสาทและจุดรับความเจ็บปวดของหมอนรองกระดูกเพื่อลดอาการป่วย โดยยังมีข้อเด่นคือเปิดแผลเล็ก ฟื้นฟูตัวเร็ว และไม่ทำลายความมั่นคงของกระดูกสันหลัง
(3) การรักษาแบบเปิดแผลเล็กด้านหลังร่างกาย ผ่านการเอซเรย์ยืนยันจุดที่เกิดโรคแล้ว เปิดแผลเล็กบุกรุกทางทำงานที่แผ่นกรวย สอดกล้องส่องและอุปกรณ์เฉพาะเข้าไปเพื่อใช้เครื่องมือ ตัดเอ็นเหลืองออกและตัดแผ่นกรวยบางส่วนออก แยกเส้นประสาทที่ถูกกดทับออกมาและตัดนิวคลีออยด์ที่ยื่นออกมา ยังสามารถตัดด้านข้างในของarticular processที่ยื้นออกมา โดยได้ลดความดันของเส้นประสาทอย่างเต็มที่
2.โรคกระดูกสันหลังคอเสื่อม โดยเป็นหลักคือใช้วิธีการแทงทะลุกระดูกสันหลังคอแบบบุกรุกน้อยเพื่อ ตัดออกนิวคลีออยด์( Nucleoid) การผ่าตัดกระดูกสันหลังคอด้านหน้า การผ่าตัดกระดูกสันหลังคอด้านข้าง การผ่าตัดกระดูกสันหลังคอด้านหลัง การรักษาด้วยยาแพทย์แผนจีนแบบปีดแน่นไขหลวม เพื่อแก้ไขหรือบรรเทาความกระตุ้นและความกดทับของประสาท หลอดเลือดและกระดูกสันหลังคอและไม่มีการยึดเกาำะแผล
3.การรักษาโรคกระดูกแบบบุกรุกน้อยที่การศึกษาค้นคว้าของโรงพยาบาลมะ เร็งสมัยใหม่กว่างโจว ส่วนใหญ่การใช้เข็มเล็กเจาะเข้าไปในตำแหน่งที่กระดูกสะโพกส่วนหัวเสื่อมตาย การผ่ากระดูกตายและแข็งออก และการปลูกกระดูกเนื้อโปร่ง โดยหลังการรักษาให้บรรลุการหายเจ็บปวด ตำแหน่งที่กระดูกเสื่อมตายได้ดีขึ้น มีจุดเป้าที่ทำให้สมรรถภาพของข้อตะโพกดีขึ้น มีจุดเด่นคือบุกรุกน้อย ไม่ทำให้เสียให้ของการไหลเวียนเลือดในบริเวณข้อตะโพก กระดูกที่ปลูกมีอัตราการรอดชีวิตสูงและประสิืทธิภาพอย่างชัดเจนเป็นต้น
1.ผู้ป่วยควรตรวจอาการโรคที่โรงพยาบาลเป็นระยะๆ
2.การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ
3.ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่ย่อยและดูดซึมง่าย เป็นอา่หารที่โปรตีนสูงและ็ก็ครบโภชนาการ
4.ผู้ป่วยควรมีสภาพจีตใจที่ดีเผื่อเกิดการบาดเจ็บอีก