มะเร็งอัณฑะเป็นเนื้อร้ายเกิดขึ้นที่เซลล์อัณฑะ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักคือ ชนิดเซมิโนมา (Semi noma) และชนิดนอนเซมิโนมา (Non-seminoma) มะเร็งทั้งสองชนิดนี้มีรูปแบบการเจริญเติบโตและการกระจายที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่กลับใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ถ้าเนื้อร้ายประกอบไปด้วยทั้งชนิดเซมิโนมาและชนิดนอนเซมิโนมาแล้ว ก็จะนำวิธีการรักษาของมะเร็งชนิดนอนเซมิโนมามาใช้ ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแนะนำว่า วิธีการรักษามะเร็งอัณฑะจะต้องขึ้นอยู่กับระยะ อายุของผู้ป่วย สภาพความแข็งแรงของร่างกายโดยรวม และปัจจัยอื่นๆ ซึ่งต้องอาศัยการตัดสินใจร่วมกัน วิธีการรักษามะเร็งอัณฑะที่สำคัญประกอบด้วย การศัลยกรรมผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัด การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนและการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด เป็นต้น
ศัลยกรรมผ่าตัดมะเร็งอัณฑะ
การใช้วิธีผ่าตัดอัณฑะส่วนหนึ่งผ่านทางขาหนีบ เรียกว่า เทคนิคการผ่าตัดอัณฑะผ่านขั้วขาหนีบ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษานี้มักจะกังวลว่าหลังจากที่ตัดอัณฑะออกข้างหนึ่งแล้วจะส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศและจะนำมาซึ่งการเป็นหมัน แต่หากผู้ชายยังคงมีอัณฑะที่แข็งแรงอีกข้างหนึ่งก็ยังคงสามารถแข็งตัวและสร้างอสุจิได้ปกติ
การรักษามะเร็งอัณฑะด้วยการฉายรังสี
การรักษามะเร็งอัณฑะเป็นวิธีการหนึ่งในการใช้รังสีที่มีพลังงานสูงมากำจัดเซลล์มะเร็งจนกระทั่งเนื้องอกหดขนาดเล็กลง วิธีการฉายรังสีเป็นวิธีการรักษาเฉพาะจุด ซึ่งจะส่งผลเฉพาะต่อเซลล์มะเร็งในบริเวณที่ทำการรักษาเท่านั้น ในช่วงเวลาที่รักษามะเร็งอัณฑะ แพทย์จะใช้อุปกรณ์เร่งความเร็วภายนอกร่างกายผู้ป่วยและฉายรังสีที่มีพลังงานสูงไปยังตำแหน่งต่อมน้ำเหลืองบริเวณท้องอย่างแม่นยำ มะเร็งอัณฑะชนิดเซมิโนมา มีความไวต่อแสงรังสี แต่มะเร็งชนิดนอนเซมิโนมาไม่มีความไวต่อแสงรังสี ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยมะเร็งชนิดนอนเซมิโนมาโดยทั่วไปจะไม่ใช้วิธีการรักษาด้วยการฉายแสง วิธีการรักษาด้วยการฉายแสงควรจะใช้หลังจากทำการผ่าตัดอัณฑะ
การรักษามะเร็งอัณฑะด้วยเคมีบำบัด
เคมีบำบัดเป็นวิธีช่วยเสริมการรักษามะเร็งอัณฑะ โดยทั่วไปจะทำหลังการผ่าตัด จะใช้ยาต้านมะเร็งมากำจัดเซลล์มะเร็งที่เหลือหลังจากการผ่าตัด ถ้าหากเป็นมะเร็งอัณฑะในระยะสุดท้าย เคมีบำบัดก็สามารถใช้เป็นวิธีแรกในการรักษา เนื่องจากเคมีบำบัดเป็นวิธีการรักษาทั่วทั้งร่างกายวิธีหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ยาจึงไหลไปตามระบบหมุนเวียนของเลือดทั่วร่างกาย ทำให้ส่งผลกระทบทั้งต่อเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติในร่างกาย แต่ว่าผลข้างเคียงจะขึ้นอยู่กับชนิดของยาและปริมาณที่ใช้
การรักษามะเร็งอัณฑะด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด
การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นขั้นตอนการรักษามะเร็งอัณฑะใหม่ล่าสุด และเป็นวิธีการรักษาทางชีวบำบัดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด จุดเด่นของการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดคือสามารุถนำมาประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง ใช้เลือดในปริมาณน้อย มีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด และไม่มีผลข้างเคียง เป็นต้น การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดเปรียบเสหมือน “ขีปนาวุธที่ควบคุมและนำทางอย่างแม่นยำ” ซึ่งสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้องอกในส่วนที่หลงเหลืออยู่ ตำแหน่งโรคที่มีการกระจายเล็กน้อย ป้องกันการแพร่กระจายและการกำเริบของเซลล์มะเร็ง ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
การรักษามะเร็งอัณฑะแบบบูรณาการ
การรักษามะเร็งอัณฑะด้วยยาจีนนั้นมีประสิทธิภาพในการปรับสมดุลให้แก่ร่างกายและช่วยในการต่อต้านมะเร็ง วิธีการนี้ค่อยๆ กลายเป็นวิธีการรักษามะเร็งอัณฑะที่ไม่สามารถขาดได้ และการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนมีการนำมาผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อรักษามะเร็งอัณฑะ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบรรเทาภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงจากการผ่าตัด การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนในระหว่างที่ทำการรักษาด้วยการฉายแสงหรือเคมีบำบัดนั้น มีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและลดผลข้างเคียง การรับประทานยาจีนอย่างต่อเนื่องหลังจากการผ่าตัด การฉายแสง หรือเคมีบำบัดในมะเร็งอัณฑะระยะสุดท้ายนั้น สามารถช่วยควบคุมอาการของโรคและช่วยเสริมสร้างประสิทธิผลในอนาคต ลดการกำเริบและการแพร่กระจาย ส่วนผู้ป่วยมะเร็งอัณฑะระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้นั้น การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนสามารถช่วยปรับอาการให้ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิต และยืดอายุผู้ป่วยให้อยู่ได้นานขึ้น