การรักษามะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปาก เป็นหนึ่งในก้อนเนื้อร้ายที่พบได้ค่อนข้างบ่อยบริเวณคอ จากผลสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องพบว่า ในประเภทของมะเร็งทั้งหมด อัตราการเกิดโรคมะเร็งช่องปากเป็น 1.45% - 5.6% และเป็น 4.7% - 20.3% ของก้อนเนื้อร้ายบริเวณคอ ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวระบุว่า หากต้องการยกระดับอัตราการรอดชีวิตหลังการรักษามะเร็งช่องปากให้สูงขึ้น การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

วิธีการรักษามะเร็งช่องปากมีอะไรบ้าง?

การผ่าตัด

มะเร็งช่องปากระยะแรก ( ผู้ที่ยังไม่พบการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ) สามารถใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัดเพียงวิธีเดียวได้ ซึ่งแน่นอนว่า หากใช้การผ่าตัดร่วมกับการฉายรังสีก็จะให้ประสิทธิผลดีกว่าการใช้เพียงวิธีเดียว

การฉายรังสี

การรักษาโดยการฉายรังสี ไม่ว่าจะใช้แบบเดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัด ก็มีบทบาทสำคัญในการรักษามะเร็งช่องปาก มุ่งเน้นรักษาผู้ป่วยระยะกลางและระยะสุดท้าย และเมื่อใช้การตรวจ CT แล้วพบว่ามีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์แผนกฉายรังสีกับแพทย์แผนกศัลยกรรมผ่าตัด เพื่อกำหนดแผนการรักษาแบบบูรณาการ โดยดูตามตำแหน่งทางกายวิภาคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของโรค ขอบเขตการรุกล้ำ ระดับการลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รวมทั้งสภาพร่างกายของผู้ป่วย เป็นต้น

การใช้เคมีบำบัด

ส่วนใหญ่มะเร็งที่เกิดบริเวณคอจะเป็นมะเร็งชนิด squamous carcinoma ซึ่งมีความไวต่อการใช้เคมีบำบัดค่อนข้างต่ำ การใช้เคมีบำบัดเพียงวิธีเดียวในการรักษามะเร็งบริเวณคอจึงมีน้อยมาก มักใช้ร่วมกับการฉายรังสีและการผ่าตัด เป็นวิธีเสริมในการรักษา

การรักษาโดยยาแผนจีน

วิธีการรักษาโดยยาแผนจีน เป็นวิธีการรักษาอันโดดเด่นของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว มุ่งเน้นรักษาผู้ป่วยที่สภาพร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ ไม่สามารถรับการฉายรังสีและเคมีบำบัดได้ แพทย์จะใช้ยาแผนจีนร่วมในการรักษา เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย และเพิ่มระดับการต้านมะเร็งให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

การรักษาแบบบาดแผลเล็ก

สำหรับก้อนมะเร็งที่ขนาดค่อนข้างใหญ่หรือมีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง ผลข้างเคียงจากการรักษาแบบดั้งเดิมอย่างการผ่าตัด การฉายรังสีและการใช้เคมีบำบัดนั้นมีอยู่มาก หากใช้การรักษาแบบบาดแผลเล็กซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับสูงของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ก็จะสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งมีข้อดี เช่น บาดแผลเล็ก ฟื้นตัวได้เร็ว ผลการรักษาเกิดประสิทธิภาพเร็ว เป็นต้น จึงได้รับการยอมรับจากผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ

การรักษาทางโภชนาการ

การนำวิตามิน A ปริมาณมากเข้าสู่ร่างกายสามารถป้องกันการกลับมาของโรคมะเร็งช่องปากได้ แต่ถ้าปริมาณวิตามิน A มีมากเกินไปก็จะเป็นโทษได้ ดังนั้น ต้องได้รับการควบคุมจากแพทย์

การรักษาจากครอบครัว

ในระหว่างการรักษา ผู้ที่ลำบากในการอ้าปาก การขับของเหลวจากต่อมและการแปรงฟัน สามารถฝึกฝนการยืดช่องปากได้ และทำความสะอาดช่องปากบ่อยๆ ( ดีที่สุดคือใช้สารละลายที่ทำลายแบคทีเรียทำความสะอาดช่องปาก จะได้รักษาสุขภาพอนามัยในการรับประทานอาหาร วันละหลายครั้ง ) นอกจากนี้ สามารถใช้น้ำว่านหางจระเข้ เพื่อเพิ่มการขับของเหลวจากต่อมไม่ให้ปากแห้ง

ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนว่า : การจะเลือกรูปแบบการรักษาแบบใดนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับอาการของโรคแล้ว ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์การรักษาของแพทย์เจ้าของไข้ เทคโนโลยี รวมทั้งเครื่องมือของโรงพยาบาลอีกด้วย ดังนั้น ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว หลังจากที่คุณได้รับการวินิจฉัยแน่ชัดแล้ว แพทย์ก็จะอาศัยสภาพทั้งหมดของผู้ป่วย แล้วประชุมร่วมกันหลายแผนกเพื่อกำหนดแผนการรักษา