มะเร็งที่เกิดจากมีเซนไคม์เช่น ไฟเบอร์ ไขมัน กล้ามเนื้อเรียบ เยื่อบุผิว เยื่อหุ้มข้อ (synovium) หลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง เป็นต้น และอยู่ที่ตำแหน่งเนื้อเยื่ออ่อน (ยกเว้นอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกาย) ซึ่งมีชื่อเรียกว่ามะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนหรือก้อนเนื้อที่เนื้อเยื่ออ่อน ก้อนเนื้อมะเร็งสามารถเกิดขึ้นในเนื้อเยื่ออ่อนตามบริเวณต่างๆ ในร่างกายได้ โดยเฉพาะพบมากในบริเวณแขน ขา ลำตัว ส่วนหลังของช่องท้องและบริเวณศีรษะ แต่บริเวณแขนขาจะพบบ่อยที่สุด โดยเฉลี่ยประมาณ 60% ของโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนทั้งหมด อัตราการเป็นโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนคือ 0.02% - 0.03% และมีเพียง1% ของโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนเท่านั้นที่พบในผู้ใหญ่ เกิดได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง อัตราการที่ตรวจพบโรคส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหรือวัยกลางคน ซึ่งเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อที่แพร่กระจายที่บริเวณอื่นๆ ได้ง่าย อัตราการตายของโรคนี้สูงถึง 2%
อาการบ่งบอกของผู้ป่วยโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนจะเห็นชัดเจนกว่าโรคมะเร็งผิวหนังชนิดต่างๆ อัตราการมีชีวิตระยะเวลาห้าปีคือ 50% อาการบ่งบอกส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพและระดับการลุกลามตามบริเวณอวัยวะต่างๆ ของมะเร็ง อาการบ่งบอกของมะเร็งตำแหน่งแขนขาจะเห็นชัดเจนกว่าตำแหน่งต่างๆ ผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายแต่ก็ยังสามารถเห็นประสิทธิผลนั้น ผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วเกณฑ์การรอดชีวิตหลังจากวินิจฉัยแล้วว่ามีการแพร่กระจายนั้นจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งปี
ปัจจุบันวงการแพทย์ยังคงไม่ทราบสาเหตุที่เกิดโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนอย่างชัดเจน แต่ได้สรุปว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเพียงอย่างเดียว
1.ความพิการแต่กำเนิด:โรคมะเร็งหลอดเลือดพบบ่อยในเด็กทารกและเด็ก การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาของโรคนี้ส่วนใหญ่มักจะพบหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว และจะเจริญเติบโตไปพร้อมกับเด็ก การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาของโรคหลอดเลือดก็จะเจริญไปตามสัดส่วนเช่นกัน และไม่สามารถหายเองได้ แต่กระนั้นโรคก็ไม่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
2.พันธุกรรมจากครอบครัว:จากการวิจัยพบว่าเซลล์มะเร็งมากมายได้แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติของโครโมโซมซึ่งเป็นตัวกำหนดลักษณะทางกรรมพันธุ์ ผู้ทีมีความผิดปกติทางโครโมโซมจะมีอัตราการเป็นโรคสูงกว่าคนปกติ และจะปรากฏให้เห็นทางกรรมพันธุ์ด้วย
3.การกระตุ้นจากสิ่งแปลกปลอม:การทดลองทางวิทยาศาสตร์พบว่า มนุษย์หากถูกกระตุ้นจากสิ่งแปลกปลอมเป็นเวลานานเป็นสาเหตุให้เกิดเป็นโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนได้
4.การกระตุ้นจากสารเคมี:จากการสำรวจทางพยาธิวิทยาพบว่าคนงานบางส่วนที่อยู่กับสาร PVCที่ใช้ในอุตสาหกรรมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคมะเร็งหลอดเลือดตับได้
5.บาดแผล:มีผู้ป่วยโรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนส่วนหนึ่งที่เคยมีประวัติบาดแผลอย่างชัดเจนในตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง
อาการที่พบบ่อยสุดคือการบวมโตหรือมีก้อนโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือมีอาการเจ็บบริเวณกระดูกและไขข้อที่ถูกลุกลามจากมะเร็ง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน มีอาการเช่นเป็นไข้รู้สึกไม่สบายทั้งตัว น้ำหนักลดลงและมีเลือดออก อาการเหล่านี้ เป็นต้น แต่พบไม่บ่อยนัก
มะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีขนาดใหญ่ ซึ่งจะรุกรานและทำลายเซลล์ปกติรอบข้าง ตัวมะเร็งเองสามารถตายไป มีอาการเลือดออกและมีการติดเชื้อได้ อีกทั้งมักจะแพร่กระจายผ่านหลอดเลือดไปถึงปอด กระดูก ใต้ผิวหนัง สมอง ต่อมหมวกไตตับอ่อน เป็นต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเสียชีวิตเนื่องด้วยภาวะผิดปกติในร่างกาย เลือดออกอย่างรุนแรงและมีการลุกลามบริเวณกว้าง
การตรวจทางเคมี
การตรวจเลือด:โดยการตรวจเกร็ดเลือดของ Serum biochemical indicators เอนไซม์LDH โปรตีน อิเล็กโทรไลท์แคลเซียมและALP ซึ่งช่วยในการวินิจฉัยโรคได้
การตรวจโดยการถ่ายภาพ
1.การตรวจโดยการถ่ายเอกซเรย์ : รูปภาพเอกซเรย์สามารถช่วยให้เห็นบริเวณของมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน ความชัดเจนและความสัมพันธ์กับกระดูกบริเวณข้างเคียง
2.การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) : การสแกนนี้สามารถค้นหาก้อนมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน บอกขนาดเล็กใหญ่และความสัมพันธ์กับโครงสร้างรอบข้างได้
3.การตรวจอัลตร้าซาวด์ : การตรวจนี้สามารถแสดงขอบเขตของมะเร็งและบริเวณของเยื่อหุ้ม อีกทั้งการตอบสนองของเซลล์มะเร็งในเนื้องอก จึงสามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือดี การสแกนกระดูกสามารถบอกขอบเขตและประเภทของเนื้องอกได้มากขึ้น
4.การตรวจเอกซเรย์หลอดเลือด สามารถบอกจุดสิ้นสุดของเนื้องอกได้
การตรวจทางพยาธิวิทยา
1.การตรวจโดยเซลล์วิทยา : ①สำหรับมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนที่เกิดการอักเสบสามารถใช้ฟิล์มเลือดหรือฟิล์มขูดนำเซลล์ตัวอย่างมาวินิจฉัยโดยการส่องกล้อง ①อาการน้ำท่วมช่องอกที่มีสาเหตุเกิดจากมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน ต้องเอาเซลล์ตัวอย่างที่สดใหม่ โดยการใช้วิธีการตกตะกอน เอาสารตกตะกอนมาหยดลงบนแผ่นฟิล์ม ①การตรวจโดยการใช้เข็มเล็กเจาะเหมาะสำหรับมะเร็งขนาดใหญ่ อยู่ในส่วนลึกและการเตรียมตัวก่อนจะไปฉายแสงหรือทำเคมีบำบัด และยังเหมาะสำหรับอาการที่มีการลุกลามหรือโรคกำเริบกลับมาเป็นอีก
2.การเอาชิ้นเนื้อไปตรวจ:ถ้าสงสัยในอาการที่เป็นอยู่การเอาชิ้นเนื้อไปตรวจมีความจำเป็นอย่างมาก แต่การเลือกวิธีการนำชิ้นเนื้อไปตรวจนั้นควรพิจารณาว่าจะสามารถทำการผ่าตัดได้หรือไม่ การผ่าตัดอาจจะทำพร้อมกับการเอาชิ้นเนื้อไปตรวจหรือทำภายหลังก็ได้
การแบ่งระยะของมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนจะขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนมะเร็ง หรือการแบ่งระดับทางพยาธิวิทยาและดูว่ามีการลุกลามที่บริเวณต่อมน้ำเหลืองหรือบริเวณที่ไกลกว่านั้นหรือไม่
โรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนในผู้ใหญ่แบ่งออกเป็นสี่ระยะ ระยะที่ 1 2และ 3 นั้นยังไม่มีการแพ่รกระจายที่บริเวณต่อมน้ำเหลืองหรือที่ไกลกว่านั้น ระยะที่สี่มีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองเป็นระยะที่4a หากมีการแพร่กระจายไปในส่วนที่ไกลออกไปเป็นระยะที่4b
หลักการการแบ่งระดับทางพยาธิวิทยาขึ้นอยู่กับปริมาณการแบ่งนิวเคลียสของเนื้องอก ระดับที่หนึ่งคือความเร็วในการแบ่งเซลล์มะเร็งค่อนข้างช้า มีการแพร่กระจายน้อย ระดับที่สองคือความเร็วในการแบ่งเซลล์มะเร็งจะเป็นระดับกลาง มีอัตราการแพร่กระจายน้อยกว่า 20% ระดับที่สามคือความเร็วในการแบ่งเซลล์เนื้องอกจะค่อนข้างเร็ว มีอัตราการแพร่กระจายมากกว่า 50%
เนื้องอกที่แบ่งตัวช้ามีอัตราการรอดชีวิตเป็นเวลาห้าปีสูงกว่า 75% แต่เนื้องอกที่มีการแบ่งตัวเร็วอัตราการรอดชีวิตเป็นเวลาห้าปีจะต่ำกว่า 25% เท่านั้น
1.การผ่าตัด : ①การผ่าตัดแบบดั้งเดิม:เป็นการผ่าตัดเอามะเร็งและเซลล์มะเร็งบริเวณใกล้เคียงออกไป ②การผ่าตัดเพื่อนำเซลล์มะเร็งออกให้มากที่สุด:เป็นวิธีการใช้ในการผ่าตัดในส่วนของมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนออกหมดได้ ซึ่งหลังการผ่าตัดแล้วก็จะใช้วิธีอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและยืดอายุของผู้ป่วยให้ดีขึ้นและยาวนานขึ้น ③การผ่าตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของแขนและขาออกไป:เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่มากและมีอาการที่รุนแรง สามารถพิจารณาการเลือกใช้การผ่าตัดวิธีนี้
2.การฉายแสง : การฉายแสงเพื่อยับยั้งการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งที่มีความรู้สึกไวจากรังสี สามารถทำได้ก่อนการผ่าตัดหรือหลังการผ่าตัด
3.การให้ยาเคมี : โดยการใช้ยาทำลายเซลล์ร้าย แต่เพื่อได้รับผลลัพธ์ที่ดี ปริมาณของการใช้ยาจะค่อนข้างมาก และโดยปกติผลข้างเคียงของยาก็จะรุนแรงตามไปด้วย
การผ่าตัดเฉพาะจุดเป็นแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆในหลายปีมานี้ การใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพเป็นตัวนำ โดยใช้ยาที่มีการพัฒนา เทคโนโลยียีนชีวภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการทำลายมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อนอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย การส่งเสริมการปลูกเซลล์ใหม่ และทำให้การทำงานกลับมาเป็นปกติ มีจุดเด่นคือเป้าหมายแม่นยำ บาดแผลเล็ก การบาดเจ็บน้อย และมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวมีพื้นฐานทางการอุดหลอดเลือดเฉพาะจุด การฝังแร่ การใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด การใช้ความเย็น เป็นต้น ซึ่งได้ก่อให้เกิดเทคนิคแบบบาดแผลเล็กเฉพาะจุด นอกจากมีจุดเด่นดังที่กล่าวมานี้แล้ว ยังสามารถทำลายมะเร็งเฉพาะส่วนได้ ซึ่งไม่ส่งผลต่ออวัยวะเนื้อเยื่อปกติในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดและการฉายแสงแบบดั้งเดิมที่ทำลายภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยให้บกพร่อง และป้องกันขั้นตอนที่มากเกินไป
แพทย์แผนจีนเป็นลักษณะพิเศษของจีน วัฒนธรรมของแพทย์จีนมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นหลายพันปี แพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงความสมดุลในร่างกาย สามารถป้องกันมะเร็ง สามารถบรรเทาอาการได้อย่างดี และยืดอายุของผู้ป่วยออกไปได้ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวนำวิธีการแบบเฉพาะจุดแบบบาดแผลเล็กที่ประยุกต์แพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน นำจุดเด่นของแพทย์แผนจีนและแพทย์ปัจจุบันมาไว้ด้วยกัน ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย ยืดอายุของผู้ป่วย ยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น