เนื้องอกบริเวณตา เป็นโรคเกี่ยวกับตาที่พบได้ค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเนื้องอกร้าย ผู้คนมักจะเรียกว่า มะเร็งตา เมื่อแบ่งประเภทตามตำแหน่ง สามารถแบ่งได้เป็น เนื้องอกบริเวณหนังตา เนื้องอกภายในตา เป็นต้น การเกิดมะเร็งตามักเกิดขึ้นที่ตาข้างเดียวก่อน หลังจากนั้นจะแพร่กระจายไปทั้งสองข้าง ช่วงอายุที่แตกต่างกันก็จะมีอัตราการเกิดโรคที่แตกต่างกัน
มะเร็งตามักจะเกิดจากพันธุกรรมหรือยีนของตนเองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคยังได้แก่ บริเวณริมหนังตาขาดเม็ดสี ถูกแดดส่องนานเกินไป โดยเฉพาะการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตอย่างรุนแรง การขาดสารอาหาร เป็นต้น
ถึงแม้โรคมะเร็งตาจะเป็นโรคที่พบเห็นไม่ได้ทั่วไป ปกติแล้วจะพบได้ในเด็กอายุห้าขวบหรือพบเร็วกว่านั้น แต่สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่าสี่ขวบ ต้องระวังในเรื่องการสะท้อนแสงของดวงตาและลูกตา หากมีการสะท้อนแสงที่ผิดปกติ หรือลูกตานูนออกมา มีก้อนเนื้อ ก็ควรรีบไปตรวจกับจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาล หากเป็นเนื้อร้าย ต้องรีบตรวจโดยเร็วที่สุด สำหรับมะเร็งตาที่ตรวจวินิจฉัยพบในระยะแรก โอกาสในการหายก็จะค่อนข้างสูง
มะเร็งตาสามารถแพร่กระจายในขอบเขตดวงตาเกือบทั้งตาได้ ตำแหน่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายจะอยู่บริเวณกระจกตาหรือแก้วตาและบริเวณริมขอบ อีกทั้งสามารถเกิดขึ้นจากเยื่อตาขาว หนังตาที่สาม ( nictitating membrane ) รวมทั้งบริเวณริมหนังตา โดยจะมีอาการดังนี้
1. เมื่อมีแสงแฟลชเวลาถ่ายรูป กลางรูม่านตาของผู้ป่วยจะมีจุดสีขาว
2. สีของดวงตาข้างหนึ่งของผู้ป่วยจะแตกต่างกับอีกข้างหนึ่ง
3. ดวงตาทั้งสองข้างของผู้ป่วยไม่เท่ากันหรือตาเหล่
4. ดวงตาทั้งสองข้างของผู้ป่วยจะบวมแดงและเจ็บปวด
5. สายตาของผู้ป่วยจะแย่ลง
1. เปรียบเทียบกับอาการของมะเร็งตา ผู้ป่วยสามารถตรวจจากรูปถ่ายว่ามีจุดสีขาวปรากฏที่รูม่านตาหรือไม่ หรือดวงตาปรากฏความผิดปกติตามที่กล่าวไว้ในข้างต้นหรือไม่
2. หากพบว่าบริเวณดวงตาของผู้ป่วยมีความผิดปกติ แนะนำให้รีบไปที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจ CT บริเวณใต้ตาและศีรษะสำหรับวินิจฉัยในขั้นแรก
3. เมื่อแน่ใจแล้วว่าอาการของผู้ป่วยมีความใกล้เคียงกับอาการของมะเร็งตา ผู้ป่วยต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อเยื่อไปตรวจทางพยาธิวิทยา
โรคมะเร็งตาก็เหมือนกับโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ สามารถทำผ่านหลายรูปแบบ เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัด เป็นต้น
1. กการผ่าตัด : การศัลยกรรมผ่าตัดเป็นวิธีการหนึ่งที่พบมากที่สุด โดยการผ่าตัดเนื้องอกออก ตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ผู้ที่อาการหนักอาจผ่าตัดลูกตาออกทั้งหมด
2. การทำความเย็น : การทำความเย็น เรียกได้อีกชื่อว่า มีดอาร์กอน - ฮีเลียม เป็นเทคโนโลยีการละลายที่สำคัญอย่างหนึ่ง โดยการทำให้ก้อนมะเร็งแข็งตัวอย่างรวดเร็วสลับกับการคืนอุณหภูมิให้สูงขึ้น จะทำให้เซลล์มะเร็งแข็งตัวและสลายไป
3. การฉายรังสี : เป็นการใช้รังสีเอกซเรย์ รังสีแกมม่า เป็นต้น มาฉายบริเวณเนื้อเยื่อมะเร็ง เนื่องจากการฉายรังสีสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้จำนวนมากที่สุด และสามารถทำลายเนื้อเยื่อมะเร็ง
4. การให้ยาเคมี : เป็นการใช้ยามากำจัดเซลล์มะเร็ง ควบคุมการเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ของเซลล์มะเร็ง แม้ว่าจะสามารถใช้ยาเคมีได้ได้ แต่ขณะเดียวกันก็จะทำลายเซลล์ปกติและเซลล์ภูมิคุ้มกันอีกด้วย นำมาซึ่งผลข้างเคียงแก่ผู้ป่วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น การแพทย์ในปัจจุบันพัฒนามาถึงการให้คีโมเฉพาะจุด โดยใช้การให้คีโมเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือดตามสภาพของผู้ป่วย ตามที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแสดงให้เห็นนั้น นอกจากจะรับรองประสิทธิภาพแล้ว ในขณะเดียวกันยังช่วยลดความรู้สึกไม่สบายให้กับผู้ป่วยได้อย่างมากอีกด้วย
5. เทคนิคภูมิคุ้มกัน : เทคนิคภูมิคุ้มกัน เป็นวิธีการรูปแบบใหม่ด้วยภูมิคุ้มกันต้านมะเร็งในร่างกายของตนเอง โดยการนำเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วยออกมาเพาะเลี้ยงและเพิ่มจำนวนภายนอกร่างกาย จากนั้นใส่คืนเข้าไปในร่างกายผู้ป่วย ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรงขึ้นก็จะไปทำลายและควบคุมการแพร่พันธุ์ของเซลล์มะเร็ง เทคนิคภูมิคุ้มกัน ไม่ได้มีบทบาทในการกำจัดเซลล์ร้ายทั้งหมด จะใช้บูรณาการร่วมกับการผ่าตัด ให้ยาเคมี ฉายรังสี เป็นต้น มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ป้องกันการลุกลาม ยกระดับคุณภาพความอยู่รอดและยืดเวลาของผู้ป่วย
สำหรับโรคมะเร็งตาในระยะที่แตกต่างกันก็จะใช้วิธีที่แตกต่างกัน ปัจจุบันวิธีการสำหรับโรคมะเร็งตาแบบดั้งเดิมจะใช้การผ่าตัด การฉายรังสีและเคมีบำบัดเป็นหลัก นอกจากนี้การบูรณาการแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน ยาแผนจีนจะช่วยปรับสมดุลของเลือดลมในร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วย สามารถใช้ประสานกับการผ่าตัดในแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังผ่าตัดแล้วฟื้นตัวได้เร็ว ลดผลข้างเคียงและความเจ็บปวดที่ได้จากการฉายรังสีและเคมีบำบัด บรรลุเป้าหมายของการบรรเทาอาการ ยกระดับคุณภาพชีวิตและยืดอายุออกไปได้
วิธีการแบบดั้งเดิมเพียงวิธีเดียวมักจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดี ข้อเสียก็ค่อนข้างเห็นได้ชัด เช่น ขณะที่ทำการฉายรังสีและให้ยาเคมีไปทำลายเซลล์ร้ายนั้น ก็จะไปทำลายเซลล์ปกติด้วยเช่นกัน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยลดลง ภูมิคุ้มกันต่ำลง ซึ่งโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวจะใช้วิธีบูรณาการเทคโนโลยีบบบาดแผลเล็ก เช่น เทคนิคเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือด การทำความเย็น เป็นต้น โดยยึดตามสภาพอาการของผู้ป่วย ซึ่งนอกจากจะสามารถหลีกเลี่ยงข้อเสียข้างต้นอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีข้อดีคือ บาดแผลเล็ก ผลข้างเคียง เช่น อาการคลื่นไส้และอาเจียนก็น้อย เป็นต้น
1. สำหรับโรคมะเร็งตาที่พบในช่วงวัยเด็ก ไม่มีแผนการป้องกัน แต่หญิงมีครรภ์ควรระมัดระวังสุขภาพและการบริโภคของตน หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับรังสีที่ไม่จำเป็น เป็นต้น เพื่อให้ทารกในครรภ์ห่างไกลจากสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรค
2. สำหรับผู้ใหญ่ ควรระมัดระวังความสะอาดและการใช้สายตา อีกทั้งควรไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลตามกำหนด