มะเร็งทวารหนัก คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดขึ้นจากเซลล์ภายในทวารหนัก มักจะเกิดขึ้นบริเวณรูทวารหนักหรือบนผิวหนังปากทวารหนัก ส่วนที่เกิดขึ้นใต้เส้น Dentate line ( เส้นแบ่งทวารหนักออกเป็นส่วนบนและส่วนล่าง ) จะเป็นมะเร็งรอบทวารหนัก อีกทั้งมะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่รูทวารหนักและบริเวณรอบทวารหนัก โดยมักจะเกิดขึ้นจากการกระตุ้นเรื้อรังของโรคฝีคัณฑสูตร ริดสีดวงทวาร แผลเป็นจากการผ่าตัด โรคหูด และซีสต์รูเหนือกระดูกก้นกบ มาเป็นเวลานาน
มะเร็งทวารหนักเป็นมะเร็งที่พบเห็นได้ไม่บ่อย แต่ทุกปีทั่วโลกจะมีคนประมาณ 30,400 คน ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทวารหนัก และทุกปีก็จะมีคนจำนวนประมาณ 710 คน เสียชีวิตเพราะโรคนี้ อีกทั้งอัตราการเกิดและอัตราการเสียชีวิตของโรคมะเร็งทวารหนักมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี ซึ่งโรคมะเร็งทวารหนักมักเกิดในเพศหญิง เปรียบเทียบอัตราการเกิดในเพศหญิงและเพศชายอยู่ที่ 3 : 2
จนถึงปัจจุบันสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักยังคงไม่ชัดเจน แต่มีผลการวิจัยยืนยันแล้วว่า ปัจจัยบางอย่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งทวารหนัก ซึ่งประกอบไปด้วย ไวรัส HPV การมีเพศสัมพันธ์ การสูบบุหรี่ โรคเอดส์ และการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกดีที่ทวารหนัก เป็นต้น
การแบ่งประเภทของมะเร็งทวารหนักสามารถยึดตามตำแหน่งการเกิดโรคที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งได้แก่ มะเร็งชนิดอยู่เฉพาะที่ มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma มะเร็งชนิดต่อม มะเร็งชนิด Basal cell carcinoma มะเร็งชนิด Malignant melanoma เป็นต้น
1. มะเร็งชนิดอยู่เฉพาะที่ : เซลล์ผิวชั้นนอกทวารหนักมีความผิดปกติมาก คล้ายคลึงกับเซลล์มะเร็ง
2. มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma : เนื้องอกที่เกิดจากเซลล์ชนิด Squamous ที่ปากทวารหนักและส่วนใหญ่ในรูทวารหนัก
3. มะเร็งชนิดต่อม : เกิดจากต่อมใต้เยื่อเมือกทวารหนักที่ขับสารคัดหลั่งของรูทวาร และอาจเกิดขึ้นจากต่อม apocrine ( เป็นต่อมผิวหนังรอบทวารหนัก )
4. มะเร็งชนิด Basal cell carcinoma : เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังรอบทวารหนักหรือบริเวณผิวหนังที่มักจะถูกแดดส่อง เช่น ใบหน้าและมือ แต่จะมีจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นที่ทวารหนัก
5. มะเร็งชนิด Malignant melanoma : เป็นเนื้องอกที่เติบโตขึ้นมาจากเม็ดสีเมลานินภายในผิวหนังของทวารหนัก จะมีมะเร็งทวารหนักประมาณ 1% - 2% เท่านั้นที่เป็น Malignant melanoma
1. ไส้ตรงที่ทวารหนักมีเลือดออก
2. ไม่สบายบริเวณทวารหนักและมีอาการคันผิดปกติ
3. บริเวณริมทวารหนักมีก้อนเนื้อขนาดเล็ก อีกทั้งเติบโตช้า
4. พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งรูปร่างของอุจจาระก็เปลี่ยนไป
5. รอบทวารหนักหรือต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบบวมโต
6. มีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยบริเวณทวารหนัก และเมื่อเนื้องอกรุกล้ำไปถึงท่อทวารหนักหรือกล้ามเนื้อหูรูด อาการเจ็บปวดก็จะรุนแรงมากขึ้น
1. การตรวจทั่วไป : การตรวจทวารหนักด้วยสายตาและการใช้นิ้วมือ หรือการตรวจร่างกายทั่วไป ได้แก่ การตรวจอุจจาระ การตรวจลำไส้ตรง และการส่องกล้องตรวจลำไส้ เป็นต้น
2. การตรวจโดยการส่องกล้องทวารหนัก : ก่อนทำการตรวจโดยการส่องกล้องทวารหนักควรตรวจด้วยสายตาและนิ้วมือก่อน ซึ่งแพทย์จะใช้น้ำมันหล่อลื่นทาบริเวณกล้องส่องทวารหนัก จากนั้นค่อยๆ สอดกล้องเข้าไปในทวารหนักและลำไส้ตรง สามารถมองเห็นได้ว่าภายในทวารหนักมีก้อนเนื้อหรือไม่
3. การตรวจ PET/CT : การตรวจ PET/CT สามารถประเมินระดับของมะเร็งทวารหนัก อีกทั้งสามารถแสดงให้เห็นว่ามีการลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองหรือไม่และลุกลามไปยังอวัยวะที่อยู่ไกลออกไปหรือไม่
4. การตรวจชิ้นเนื้อ : แพทย์จะใช้เข็ม กรรไกรเล็กหรือคีมตัดเนื้องอกส่วนหนึ่งออกมา จากนั้นจะใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องตรวจชิ้นเนื้อว่ามีการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ การตรวจชิ้นเนื้อประกอบไปด้วย การใช้เข็มเจาะเพื่อดูดชิ้นเนื้อไปตรวจและการตัดชิ้นเนื้อตรวจต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล
1. การผ่าตัด : จะอาศัยจากตำแหน่งก้อนมะเร็ง ก้อนมะเร็งมีการรุกล้ำไปกล้ามเนื้อหูรูดหรือไม่ และมีการลุกลามไปต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบหรือไม่ เป็นต้น มาใช้กำหนดตำแหน่งที่จะผ่าตัด วิธีการผ่าตัดประกอบด้วย การผ่าตัดท้องและฝีเย็บและการผ่าตัดเฉพาะส่วน
2. การฉายรังสี : เป็นการฉายรังสีตามสภาพร่างกายและส่วนที่เป็นมะเร็งของผู้ป่วยมะเร็งทวารหนัก สามารถใช้ประกอบกับการผ่าตัดได้ ซึ่งถ้าฉายรังสีก่อนการผ่าตัดจะสามารถยกระดับอัตราของการผ่าตัด ส่วนการฉายรังสีหลังการผ่าตัดสามารถลดการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งทวารหนักได้
3. การให้ยาเคมี : เป็นการให้ผู้ป่วยทานยา บางครั้งต้องใช้ตัวยาฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อของผู้ป่วย โดยทั่วไปมักใช้ร่วมกับการผ่าตัดและการฉายรังสี สามารถลดการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งทวารหนักได้
1. ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักควรมีความกระตือรือร้นในการร่วมมือกับแพทย์
2. ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ดีในการดำรงชีวิต
3. ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักควรเลิกบุหรี่และไม่ทานอาหารรสจัด
4. ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักควรทานผักและผลไม้สดให้มาก
5. คนในครอบครัวควรดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วยอยู่เสมอ
6. ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนักควรเลี่ยงอารมณ์ท้อถอย ความกังวล และการมองโลกในแง่ร้าย
ทีมผู้เชี่ยวชาญหลายแขนงซึ่งรวบรวมแพทย์ศัลยกรรมด้านมะเร็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉายแสงมะเร็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคแบบบาดแผลเล็ก พยาบาลผู้ดูแลแผนกมะเร็งและเจ้าหน้าที่ล่าม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะร่วมกันกำหนดแผนการโดยประเมินจากสภาพร่างกายและอาการของผู้ป่วยมะเร็งทวารหนัก เพื่อยกระดับผลลัพธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แพทย์แผนจีนมีประสิทธิภาพในการปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยในการต้านมะเร็ง ยกระดับประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันและเสริมให้แข็งแรง เป็นต้น ซึ่งโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้นำการแพทย์แผนจีนมาใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีอื่นๆ ทำให้เกิดการบูรณาการระหว่างข้อดีของแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบัน สามารถยกระดับผลลัพธ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งที่รวมหลายแขนงกำหนดแผนการแบบบูรณาการให้ผู้ป่วยมะเร็งทวารหนัก โดยใช้วิธีการแบบเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือดเปิดบาดแผลที่ร่างกายผู้ป่วยเพียง 1-2 มิลลิเมตร จากนั้นเจาะลงไปภายใต้การนำของอุปกรณ์ภาพถ่ายทางการแพทย์ โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ท่อเล็กๆ ขดลวด เป็นต้น เจาะเข้าไปในร่างกายโดยตรง เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยตำแหน่งรอยโรค หรือขณะที่ดูดชิ้นเนื้อก็ทำการอุดหลอดเลือดแดงและสวนยา เมื่อบูรณาการกับการเจาะจงเซลล์มะเร็งจะสามารถระบุตำแหน่งที่เกิดมะเร็งทวารหนักได้แม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งผสานกับการใช้เทคนิคภูมิคุ้มกันจะสามารถยกระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้ป่วยให้สูงขึ้น เป็นการนำข้อดีของเทคโนโลยีแบบบาดแผลเล็กมาประสานกัน หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่ได้จากเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมโดยการฉายรังสีและเคมีบำบัด สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกด้านมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ในโรงพยาบาลยังเสนอการบริการห้องผู้ป่วยอันสะดวกสบายและโภชนาการด้านอาหาร เป็นต้น เพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แก่ผู้ป่วยอีกด้วย
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแห่งประเทศจีนได้ตั้งสำนักงานขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย ไทย เป็นต้น ทุกปีสำนักงานจะรับผู้ป่วยชาวต่างชาติและส่งตัวมายังโรงพยาบาลจำนวนมาก ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลและฟื้นตัวมาจากหลายประเทศ
ด้านหนึ่งโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเสนอการบริการด้านการแพทย์ที่ครบวงจรให้แก่ผู้ป่วย อีกด้านหนึ่งยกระดับประสิทธิภาพทางการแพทย์ให้สูงขึ้น โดยไม่เพิ่มภาระให้แก่ผู้ป่วย อีกทั้งช่องทางการติดต่อระหว่างแพทย์และผู้ป่วยมีหลายช่องทาง ได้แก่ ทางออนไลน์ ทางอีเมล์ ทางโทรศัพท์ หรือการพบปะกัน เพื่อขยายช่องทางการบริการให้คำปรึกษา ช่วยให้พวกเขาต้านมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย