ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ เราสามารถรับรู้สีสันของโลกผ่านดวงตา แต่ทว่าด้วยเหตุผลนานัปการ การดูแลดวงตาของเด็กแรกเกิดจึงเป็นปัญหาที่พ่อแม่มักจะมองข้ามไป ส่งผลให้เด็กบางคนได้รับความเสียหายทางตา กระทั่งต้องสูญเสียการมองเห็นไป ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนว่า เด็กอายุ 0 – 4 ปีเป็นช่วงที่ดวงตามีการเจริญเติบโตสูงสุด และเป็นช่วงที่เด็กมีอัตราการเกิดมะเร็งตาสูงเช่นกัน ผู้ปกครองจึงควรดูแลใส่ใจการเปลี่ยนแปลงทางตาของลูกอย่างใกล้ชิด ระวังมะเร็งตาที่จะเกิดขึ้น
เนื้องอกบริเวณตาเป็นโรคทางตาที่พบเห็นได้น้อยมาก โดยมากจะเป็นเนื้อร้าย จึงมักจะเรียกว่ามะเร็งตา มะเร็งตาโดยทั่วไปจะเกิดจากกรรมพันธุ์หรือจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และเนื้องอกนัยน์ตาที่พบเห็นได้บ่อยในเด็กมักจะเป็นเนื้องอกจอประสาทตา เป็นเนื้องอกที่มีระดับการกลายเป็นเนื้อร้ายได้สูงในเด็กทารกแรกเกิด หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและทำการรักษาอย่างทันท่วงที ผลท้ายสุดมักจะมีความรุนแรง มะเร็งจอประสาทตานั้น โดยทั่วไปในเด็กทารกแรกเกิด 15000 คนจะมี 1 คนที่เป็นโรคนี้ ทุกๆ ปีในประเทศอังกฤษจะมีผู้ป่วย 40 -50 คนที่ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคนี้ ผลสำรวจทางระบาดวิทยาแสดงให้เห็นว่า ในประเทศกำลังพัฒนานั้น มีอัตราการเป็นมะเร็งจอตาค่อนข้างสูง และในประเทศแถบเอเชียมีอัตราการเป็นมะเร็งจอตาสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้มีผู้คนมากมายให้ความสำคัญต่อสภาพการณ์นี้ แต่การพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการรักษานั้นยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ สำหรับผู้ปกครองแล้ว การทำความเข้าใจอาการของมะเร็งตาจึงมีความจำเป็นอย่างมาก แล้วอาการของมะเร็งตามีอะไรบ้างล่ะ ?
1. ดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันหรือมีอาการตาเหล่หรือตาเข
2. สีของดวงตาข้างหนึ่งจะต่างกับอีกข้างหนึ่ง
3. เมื่ออยู่กลางแดดปกติ ตรงกลางรูม่านตาจะพบจุดสีขาว
4.เมื่อมีแสงแฟลชเวลาถ่ายรูป ตรงกลางรูม่านตาของผู้ป่วยจะมีจุดสีขาว
5. มักพบสิ่งผิดปกติที่เห็นได้ชัดบริเวณเปลือกตาซึ่งส่งผลกระทบต่อดวงตา ถ้าหากมีอาการรุนแรงจะเกิดอาการอักเสบบริเวณก้อนเนื้อ
6. มีอาการความดันลูกตาสูงขึ้น ปวดตา ปวดศีรษะ ความสามารถในการมองเห็นแย่ลง เป็นต้น (อาการเหล่านี้พบมากในโรคมะเร็งจอประสาทตา (retinoblastoma) และมะเร็งลูกตาชั้นคอรอยด์ (choroidal melanoma) เป็นต้น
7. มีอาการปวดตาพร้อมกับน้ำตาไหล ลูกตานูนขึ้นมาหรือไม่สามารถขยับได้ปกติ ความสามารถในการมองเห็นแย่ลง เป็นต้น (อาการเหล่านี้พบมากในโรคมะเร็งเบ้าตา มะเร็งต่อมน้ำตา และมะเร็งทางประสาทตา เป็นต้น)
ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเตือนว่า การตรวจพบเร็วและรักษาเร็ว เป็นหลักการพื้นฐานในการรักษามะเร็งตา มะเร็งตาแม้จะไม่ได้พบเห็นได้ทั่วไป แต่พ่อแม่ก็ควรใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงทางตาของลูกเป็นพิเศษ เมื่อพบว่ามีอาการเสี่ยงเป็นมะเร็งตา ควรเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานในทันที หลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสที่ดีในการรักษา