การปลูกถ่ายไขกระดูก คือ การนำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูกของคนๆ หนึ่งปลูกถ่ายไปในร่างกายของอีกคนหนึ่ง หากพูดให้ถูกต้องก็คือ การปลูกถ่ายไขกระดูกคือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด สำหรับผู้ที่เป็นโรคร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับระบบโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (โดยทั่วไปเรียกว่า โรคมะเร็งเม็ดเลือด) โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคไขกระดูกฝ่อ โรคธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยที่เกิดความผิดปกติจากการได้รับรังสีรักษา เป็นต้น ความหวังที่จะทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็คือการปลูกถ่ายไขกระดูกนั่นเอง ในประเทศจีน ทุกปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ประมาณ 4 ล้านคน ที่กำลังรอรับการปลูกถ่ายไขกระดูก ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีผู้ป่วยจำนวนมากกว่าที่กำลังรอรับบริจาคไขกระดูก
การหาไขกระดูกที่เหมาะสมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทว่า ก็ยังคงมีผู้ที่มีจิตใจดีมากมายสมัครใจเข้าร่วมกลุ่มบริจาคไขกระดูก ทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเรียกร้องว่า เพียงแค่คุณมีร่างกายที่แข็งแรง ขอเชิญคุณมาร่วมกลุ่มของเรา เพื่อช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ทำความเข้าใจการปลูกถ่ายไขกระดูกและการบริจาคว่าต้องทำอย่างไร แล้วดำเนินการ บริจาคไขกระดูก-บริจาคเลือด! ง่ายแค่นี้เอง!
การบริจาคไขกระดูกส่งผลต่อสุขภาพร่างกายหรือไม่?
การบริจาคไขกระดูกไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา คนจำนวนมากคิดว่าการบริจาคไขกระดูกคือการนำไขกระดูกสันหลังออกมา ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดๆ การปลูกถ่ายไขกระดูกนั้นต้องการไขกระดูกแดงภายในร่างกาย นั่นคือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในผู้ใหญ่จะมีน้ำหนัก 3 กิโลกรัม ผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดไขกระดูกไม่ถึง 10 กรัม ก็จะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้หนึ่งคน ดังนั้นจึงไม่ทำให้การทำงานของภูมิคุ้มกันและการสร้างเม็ดเลือดลดลง โดยไขกระดูกจะเป็นเนื้อเยื่อที่มีความสามารถในการเกิดใหม่สูงมาก สำหรับผู้บริจาคที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จำนวนเซลล์ต้นกำเนิดที่บริจาคไปก็จะสามารถเสริมสร้างกลับมาใหม่ได้ภายในเวลาประมาณ 10 วัน จะไม่รู้สึกถึงความไม่สบายใดๆ จึงปลอดภัยมากสำหรับผู้บริจาค โดยปกติผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดลางานเพียงครึ่งวันก็สามารถดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมด ไม่ต้องพักผ่อนหรือบำรุงสุขภาพเป็นพิเศษ
คุณสมบัติของผู้บริจาคไขกระดูก
1. พลเมืองของประเทศนั้นๆ ซึ่งมีอายุ 18 – 45 ปี
2. สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อที่สามารถถ่ายทอดทางเลือด เช่น โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคไวรัสตับอักเสบซี โรคเอดส์ เป็นต้น
ขั้นตอนการบริจาคไขกระดูก
(ลำดับขั้นตอนนี้ใช้สำหรับในประเทศจีนเท่านั้น ประเทศอื่นๆ จะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันไป)
1. ลงทะเบียน
( 1 ) ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ : ติดต่อฮอตไลน์ของสถานที่รับบริจาคต่างๆ ลงทะเบียนโดยแจ้งชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เป็นต้น ผ่านทางโทรศัพท์
( 2 ) ส่งข้อมูลทางไปรษณีย์ : หลังจากลงทะเบียนทางโทรศัพท์แล้ว สถานที่รับบริจาคในพื้นที่จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดรวมถึงวิธีเดินทางไปบริจาคและที่ตั้งตามที่อยู่ที่คุณลงทะเบียนไว้
2. ตรวจเลือด
หลังจากลงทะเบียนแล้ว ธนาคารไขกระดูกก็จะตรวจเลือดคุณในเวลาที่เหมาะสม (5 มิลลิลิตร) และนำ HLA ( Human Leukocyte Antigen ) มาทดสอบเพื่อแบ่งชนิดและเก็บเป็นฐานข้อมูลของผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดไว้ในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้ป่วยหาไขกระดูกที่เหมาะสมได้
สิ่งที่ต้องอธิบายในส่วนนี้คือ การเข้าธนาคารไขกระดูกนี้เป็นแค่การบันทึกการบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องรีบบริจาคทันที เมื่อมีผู้ป่วยที่เหมาะสม จึงจะเตรียมการในขั้นต่อไป
3. เนื้อเยื่อเข้ากันได้ในขั้นแรก
เมื่อ HLA – AB ของผู้ให้และผู้รับบริจาคใกล้เคียงกัน ธนาคารไขกระดูกก็จะแจ้งให้คุณตรวจเลือดในขั้นต่อไป เป็นการตรวจวิเคราะห์ HLA – DR
4. ดำเนินการบริจาค
หากชนิด HLA ของผู้ให้และผู้รับบริจาคตรงกัน เจ้าหน้าที่จะแนะนำกระบวนการบริจาคให้คุณฟังอย่างละเอียด และวางแผนตรวจทั้งร่างกาย หากผลการตรวจสุขภาพของผู้บริจาคได้มาตรฐาน ก็จะดำเนินการบริจาค
การเก็บไขกระดูก
การเก็บไขกระดูกแบบดั้งเดิมต้องทำการเจาะไขกระดูก แต่ในปัจจุบันเราสามารถใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ง่ายและสะดวกกว่าเดิมมาทำการเก็บไขกระดูก
ขณะที่บริจาค คุณจะอยู่ในสภาวะที่มีสติสัมปชัญญะ เจ้าหน้าที่เฉพาะทางจะต้อนไขกระดูกที่มีประสิทธิภาพและเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในบริเวณอื่นๆ ให้ออกไปยังเลือดที่อยู่รอบนอก ระหว่างการบริจาคแค่เก็บเลือดบริเวณรอบนอกจากหลอดเลือดดำบนแขนของผู้ป่วย และใช้เครื่องมือคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดออกมาเท่านั้น ส่วนเลือดที่เหลือก็นำกลับเข้าไปในร่างกายของผู้บริจาค