ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจวกล่าวว่า ชีวิตทางเพศปกติไม่เพียงแต่ส่งเสริมความรักระหว่างสามีกับภรรยาและความสุขของครอบครัว ยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งของผู้หญิงโดยเฉพาะสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ นี่เป็นความจริงหรือ?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจวได้ทดลองทางชีววิทยาแล้วพบว่า น้ำอสุจิของผู้ชายมีสารต้านเชื้อโรคชนิดหนึ่งเรียกว่า seminal plasmin ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อเข้าสู่เซลล์เชื้อแบคทีเรีย ก็จะสามารถหยุดการสังเคราะห์อาร์เอ็นเอของเชื้อแบคทีเรีย อาร์เอ็นเอเป็นสารประกอบชีวเคมีสำคัญของโปรตีนที่ขาดมิได้ การหยุดสังเคราะห์ของอาร์เอ็นเอจะทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตไม่ได้ การเพาะเลี้ยงเซลล์ที่ห้องปฏิบัติการทดลองพบว่า seminal plasmin สามารถฆ่าสแตฟฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) สเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) และเชื้อโรคแบบอื่นซึ่งเป็นคุณสมบัติคล้ายกับเพนิซิลิน (Penicillin) สเตรปโตมัยซิน (Streptomycin) และเตตราไซคลิน (Tetracycline)
ในทำนองเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้ยังพบว่า ทางการแพทย์ปกติอาจจะสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งรังไข่ของผู้หญิงอย่างมีประสิทธิภาพ นักวิทยาศาสตร์แยกส่วนผสมสามอย่างที่มีสังกะสีและแร่ธาตุแบบอื่นออกจากน้ำอสุจิ แล้วฉีดเข้าไปน้ำเพาะเลี้ยงเซลล์มะเร็งของเยื่อบุผิวรังไข่และน้ำเพาะเลี้ยงเซลล์ปกติของเยื่อบุผิวรังไข่ ในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง อัตราการตายของเซลล์มะเร็งรังไข่สูงถึง 81% แต่อัตราการตายของเซลล์ปกติมีเพียง 37%
มีข่าวรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญจัดการตรวจโรคสูติ-นรีเวชกรรมให้ผู้หญิง 100 คนที่ได้แต่งงาน 30 ปีขึ้นไปและมีชีวิตทางเพศปกติ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ผลการตรวจพบว่า คนที่เป็นโรคช่องคลอดอักเสบ ปากมดลูกอักเสบ เยื่อบุมดลูกอักเสบปีกมดลูกอักเสบและโรคทางนรีเวชแบบอื่นมีเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าอัตราของผู้หญิงที่มีชีวิตทางเพศปกติน้อยกว่า เนื่องจากผู้หญิงที่มีชีวิตทางเพศปกติได้น้ำอสุจิของสามีเข้าไปช่องคลอดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งโดยผ่านปากมดลูกแล้วค่อย ๆ ถึงมดลูกจนสุดท้ายถึงท่อรังไข่ แล้วน้ำอสุจิก็จะเป็นประโยชน์ต่ออวัยวะภายในเหล่านี้ในการฆ่าเชื้อโรค
ดังนั้น เหตุผลที่ว่าทำไมชีวิตทางเพศปกติช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งของผู้หญิงได้ก็เพราะบทบาทของน้ำอสุจิผู้ชาย