เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดนก H7N9
ไข้หวัดธรรมดาเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในทางเดินหายใจเฉียบพลัน เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แบ่งออกเป็น A B C ทั้งหมดสามประเภท ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีการระบาดมากที่สุด
H7N9 เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดนกหรือเชื่อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธ์ย่อย หลังจากมีการกลายพันธ์ของยีนแล้วระบาดไปยังร่างกายมนุษย์ เนื่องจากไข้หวัดนก H7N9 เป็นโรคที่มีอาการเจ็บป่วยระยะสั้น แต่มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูง เทียบเท่ากับโรคซาร์สเลยก็ว่าได้ จึงได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก
ผู้ป่วยไข้หวัดนกH7N9จะมีอาการอย่างไร
1. มีไข้ (มากกว่า 38 ° C) ไอและมีเสมหะเล็กน้อยคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา
2. เป็นไข้ 5 วันไข้ไม่ลด หลังจากนั้นอาจจะพัฒนาเป็นโรคปอดบวม
3. หลังจากมีอาการ 7-9 วัน ภายใน 24-48 ชั่วโมงจะรู้สึกหายใจลำบากทันที ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจ ตับ และไตล้มเหลว เห็นได้จากผู้ป่วยที่เสียชีวิตในปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มป่วย จนถึงอาการรุนแรงและนำไปสู่การเสียชีวิต ซึ่งใช้เวลาเพียง 7-11 วัน หรือกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาน้อยที่สุดเพียง 5 วัน
เมื่อมีอาการที่คล้ายโรคไข้หวัดนก H7N9 จะทำอย่างไร
หากมีอาการตัวร้อน ปวดศีรษะ คัดจมูก และไอ อย่าเพิ่งตกใจควรสวมหน้ากากอนามัยแล้วรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพื่อความแน่ใจให้แจ้งแพทย์ว่าก่อนที่จะเป็นไข้ตนเองได้อยู่ในพื้นที่ที่มีไข้หวัดนกระบาด หรือมีการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง และอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เพื่อรับการรักษา
วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดนก H7N9
1. เพิ่มการออกกำลังกาย สร้างนิสัยการมีสุขอนามัยที่ดี
2. มีการนอนหลับและพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
3. ควรเปิดหน้าต่าง 1-2 ครั้งต่อวัน ครั้งละครึ่งชั่วโมงเพื่อระบายอากาศ
4. ในการบริโภคสัตว์ปีกและไข่ต้องปรุงให้สุก
5. ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะสัตว์ที่เสียชีวิตแล้ว
6. ไม่ควรประมาทเมื่อเป็นไข้หวัด ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล