หากคุณโชคร้ายพบว่าตนเป็นมะเร็ง และแพทย์บอกคุณว่าสามารถทำการรักษาด้วยการผ่าตัด ให้คุณวางใจ เพราะอย่างน้อยที่สุด คุณก็ยังมีโอกาสในการรักษาและยังมีความหวังที่จะฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกครั้ง ให้ตัวเองเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกายและความจิตใจ เชื่อมั่นว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ
ก่อนทำการผ่าตัด เรื่องที่คุณจำเป็นต้องทำคือ:
1.ยอมรับการตรวจ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายของคุณเหมะสมกับวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัด
ก่อนทำการผ่าตัด คุณต้องได้รับการตรวจดังต่อไปนี้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าสภาพร่างกายของคุณสามารถรับได้กับการใช้ยาชา รวมถึงหลังจากการผ่าตัดแล้วจะได้รับการฟื้นฟูที่ดี
(1)การตรวจเลือด เพื่อทดสอบสภาพร่างกายของคุณรวมไปถึงการทำงานของไต
(2)การเอกซเรย์ปอด เพื่อตรวจสอบปอดว่ามีสุขภาพดีหรือไม่
(3)การตรวจสอบการหายใจ การทดสอบการทำงานของปอด
(4)คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ
(5)การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจไดนามิค (DCG)
(6)การตรวจสอบด้านอื่นๆ
2.การรับประทานยา ควบคู่ไปการรักษาด้วยการผ่าตัด
หลายครั้ง การรักษาโรคมะเร็งโดยการผ่าตัดจะได้ประสิทธิผลดีหรือไม่นั้น มีความเกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายของผู้ป่วยพอสมควร หากร่างกายของผู้ป่วยแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี ก็จะสามารถชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีความต้านทานต่อการรักษาต่างๆ ด้วยเหตุนี้ก่อนทำการผ่าตัดจึงอาจต้องมีการรับประทานยา ที่มีสาร ginsenoside Rh2 เพื่อส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ส่งเสริมเซลล์น้ำเหลืองT เซลล์NK เซลล์IL2 เสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเพื่อทนต่อการรักษาด้วยการผ่าตัด รวมถึงเสริมสร้างความต้านทานต่อเซลล์มะเร็ง
มีหนังสือทางประวัติศาสตร์กล่าวถึงยาจีนในปัจจุบัน ที่มีสาร ginsenoside Rh2 มีฤทธิ์สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนังชนิดที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีผิว มะเร็งตับ เป็นต้น นำมาซึ่งผลที่แตกต่าง ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูง สำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดนั้น มีผลทำให้เซลล์มะเร็งหดตัวลง ลดบาดแผลของการผ่าตัด เนื่องด้วยเหตุนี้ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจึงมีความปลอดภัย สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดแล้วสามารถทำให้ร่างกายฟื้นฟูเร็ว และยังมีผลในการควบคุมการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง หลังการผ่าตัดสามารถช่วยลดการเกิดซ้ำของเซลล์มะเร็ง ภายหลังจากการรักษา ผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาที่คุณหมอได้จัดไว้ให้อย่างเคร่งครัด
3.การฝึกลมหายใจและการออกกำลังขา
หลังจากทำการผ่าตัด คุณหมอและนักกายภาพบำบัดจะแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ป่วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงก่อนทำการผ่าตัดเป็นช่วงที่ควรต้องเริ่มออกกำลังกาย
การฝึกลมหายใจมีส่วนช่วยในการป้องกันการติดเชื้อบริเวณอก ผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ หากสามารถเลิกสูบได้ก่อนการผ่าตัดเพียงไม่กี่สัปดาห์ จะสามารถช่วยให้ลดอัตราการติดเชื้อลงได้
การออกกำลังขามีส่วนช่วยป้องกันเส้นเลือดดำอุดตัน(เส้นเลือดดำที่อยู่บริเวณขาจะอุดตันและก่อตัวเป็นเลือดแข็ง) แต่คุณสามารถป้องกันโดยการใช้ยา(โดยการฉีดยาในปริมาณเล็กน้อยผ่านทางผิวหนัง) โดยปกติแล้วยาป้องกันเลือดแข็งตัวจำเป็นต้องให้ก่อนการผ่าตัด และต่อเนื่องไปจนหลังการผ่าตัดสองถึงสามสัปดาห์ แพทย์อาจแนะนำให้คุณสวมถุงน่องการบีบอัด
เชื้อที่แพร่กระจายบริเวณช่วงอกและอาการเลือดแข็งตัวล้วนเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะว่าร่างกายของคุณไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตได้เหมือนเมื่อก่อน หลังจากทำการผ่าตัด พยาบาลอาจจะแนะนำให้คุณตื่นเช้าเพื่อเดินออกกำลัง แต่ว่าการผ่าตัดมะเร็งก็ยังเป็นการผ่าตัดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ หลังจากการผ่าตัดสองถึงสามวัน ผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องพักอยู่บนเตียง
4.รายละเอียดที่ควรรู้ก่อนการผ่าตัด
ในช่วงระหว่างที่คุณเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด ศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ นักกายภาพบำบัด รวมถึงพยาบาลจะเข้ามาพบคุณเพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะชี้แจงว่าจะทำการผ่าตัดอย่างไร รวมถึงหลังจากการใช้ยาสลบจะเกิดผลกระทบอย่างไรต่อผู้ป่วย ก่อนการรักษาตัว หากผู้ป่วยหรือญาติมีข้อข้องใจหรือสงสัยก็สามารถสอบถามพยาบาลหรือศัลยแพทย์ที่ทำการรักษา ทางโรงพยาบาลยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ หากผู้ป่วยมีความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการรักษาแล้ว ก็จะช่วยบรรเทาความกังวลลงได้