ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะระยะสุดท้าย ที่มีการลามไปยังบริเวณอื่น มักปวดเป็นอย่างมาก และรู้สึกไม่สบายไปทั่วร่างกาย อาการปวดจากโรคมะเร็งมักจะทำให้ผู้ป่วยต้องรับความทรมานเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คุณภาพในการใช้ชีวิตลดลงเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะมียาที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการเจ็บปวดจากโรคมะเร็ง แต่ญาติผู้ป่วยมักกังวลว่าถ้ามีการใช้ยาแก้ปวดในระยะยาวนั้นจะมีผลข้างเคียง และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการดื้อยา เพราะฉะนั้นจึงชอบนวดให้กับผู้ป่วย หรือจ้างหมอนวดมานวดเพื่อบรรเทาอาการปวด โดยคิดว่าการนวดจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยได้ ทำให้รู้สึกอุ่นใจ อีกทั้งกายภาพบำบัดก็ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้เตือนว่า ห้ามทำการนวดให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยไม่ได้รับการอนุญาติจากคุณหมอ โดยเฉพาะผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มีอาการลามไปยังกระดูก เพราะกระดูกของคนไข้เหล่านี้จะเปราะบางเป็นอย่างมาก ใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้กระดูกหักได้ จะยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้ผู้ป่วยโดยใช่เหตุ
ในขณะที่ทราบว่าเป็นโรคมะเร็ง หากมีการนวดเฉพาะส่วนในร่างกาย แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานชื้นใดที่ชื้ให้เห็นว่าการนวดจะทำให้มะเร็งแพร่การจาย แต่การนวดไม่มีส่วนช่วยในการฆ่าเซลล์มะเร็งแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน การกระทำเช่นนี้ยังเป็นอันตราย เพราะถ้าหากมะเร็งได้ลามไปยังกระดูก แต่ยังไม่มีการตรวจพบ การนวดที่บุคคลธรรมดาสามารถรับได้ จะกลายเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับผู้ป่วยที่มะเร็งได้ลามไปยังกระดูก เพราะการนวดอาจทำให้กระดูกผู้ป่วยหักได้
การเจ็บปวดจะเป็นอากการหลักของผู้ป่วยที่มะเร็งได้ลามไปยังกระดูก เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคมะเร็ง และมีการพูดว่ามีอาการเจ็บปวดตามร่างกายนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือห้ามทำการนวดให้กับผู้ป่วย การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงไม่เป็นผลดีแล้ว ยังเป็นผลเสียต่อร่างกายผู้ป่วยอีกด้วย ในกรณีที่มะเร็งได้ลามไปยังกระดูก กระดูกของผู้ป่วยจะเปราะบางเป็นอย่างมาก โดนทำร้ายได้ง่าย และอาการจะรุนแรงยิ่งกว่าโรคกระดูกพรุน เพียงแค่กดเบาๆ ก็จะสามารถทำให้กระดูกหักได้ ทำให้ผู้ป่วยได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก การรักษาอาการปวดจากโรคมะเร็งในปัจจุบันนั้น ควรจะอาศัยยาเป็นหลัก การนวดที่ช่วยบรรเทาอาการปวดสำหรับผู้ป่วยปกตินั้น สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งอาจจะเป็นฆาตรกรที่แฝงตัวมาโดยที่เราไม่รู้ตัว