การตรวจวินิจฉัยมะเร็งองคชาต

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งองคชาตในระยะแรกนั้น มีส่วนช่วยอย่างมากในการยกระดับผลลัพธ์ทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้นำเข้าอุปกรณ์การตรวจอันทันสมัยในระดับสากล ทั้งยังพร้อมไปด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์มากมายที่จะทำการตรวจให้กับคุณ ซึ่งทำให้การตรวจวินิจฉัยมะเร็งองคชาตมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น


การวินิจฉัยโรคมะเร็งองคชาติ


หากคุณมีอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งองคชาต แพทย์จะทำการตรวจคุณด้วยวิธีหนึ่งหรือหลายวิธีตามด้านล่างนี้ เพื่อตรวจวินิจฉัยให้แน่ชัดได้ตั้งแต่ระยะแรก แต่หากมะเร็งองคชาตเกิดการลุกลามแล้วนั้น วิธีการตรวจตามด้านล่างนี้จะสามารถช่วยให้คุณเลือกเทคนิคทางการแพทย์ที่ดีที่สุดได้ :

1. การตรวจวินิจฉัยโดยการคลำ : แพทย์ที่มีประสบการณ์มากมายจะทำการคลำตรวจองคชาตของคุณ เพื่อตรวจดูขนาดของก้อนเนื้อที่องคชาต ตำแหน่ง ระดับการเคลื่อนไหว รวมถึงระดับการรุกรานไปยังเนื้อเยื่อรอบข้าง เป็นต้น โดยการตรวจวินิจฉัยต่อมน้ำเหลืองข้างขาหนีบทั้งสองข้างนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งจะสามารถตรวจพบว่ามีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองหรือไม่ หากคลำตรวจแล้วพบว่าปกติ ก็ต้องทำการตรวจในขั้นต่อไป เพื่อที่จะวินิจฉัยได้อย่างแน่ชัด

2. การตรวจวินิจฉัยโดยการใช้นิ้วตรวจลำไส้ตรงพร้อมกับการคลำทางหน้าท้อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการทำความเข้าใจสภาพของก้อนเนื้องอกที่รุกล้ำไปยังฝีเย็บและก้อนเนื้อที่อุ้งเชิงกราน เป็นต้น

3. การตรวจวินิจฉัยจากภาพถ่ายทางการแพทย์

(1) การตรวจอัลตราซาวด์ : การตรวจอัลตราซาวด์สามารถประเมินเนื้องอกปฐมภูมิได้ในระดับหนึ่ง สามารถวินิจฉัยว่ามีการรุกล้ำไปยังกล้ามเนื้อฟองน้ำขององคชาตหรือไม่ แต่สำหรับการวินิจฉัยว่าก้อนเนื้องอกที่ส่วนหัวขององคชาตมีการรุกล้ำไปยังเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนังหรือไปยัง corpus spongiosum หรือไม่นั้น จะวินิจฉัยได้ยาก

(2) การตรวจ CT และ MRI : เมื่อการตรวจอัลตราซาวด์ไม่สามารถบอกได้แน่ชัด ก็สามารถใช้การตรวจ MRI ได้ โดยเฉพาะเมื่อเนื้องอกมีการรุกล้ำไปยังกล้ามเนื้อฟองน้ำขององคชาต ซึ่งจะสามารถวิเคราะห์แยกแยะระดับความลึกที่รุกล้ำได้ และมีส่วนช่วยในการแบ่งระยะของมะเร็งอีกด้วย ส่วนการตรวจ CT โดยหลักแล้วควรใช้สแกนบริเวณขาหนีบ อุ้งเชิงกราน รวมถึงวินิจฉัยว่ามีการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่ไกลออกไปหรือไม่

(3) การตรวจโดยการถ่ายภาพรังสีระบบน้ำเหลือง : มีส่วนช่วยในการตรวจวินิจฉัยมะเร็งองคชาตที่มีการลุกลามในระดับหนึ่ง โดยสามารถฉีดสารรังสีผ่านตำแหน่งท่อน้ำเหลืองบริเวณหลังเท้า องคชาต สายโยงลูกอัณฑะ เป็นต้น เพื่อตรวจดูจุดที่เกิดการลุกลาม

4. การตรวจชิ้นเนื้อ

ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนต่างๆนั้น แพทย์จะทำการตรวจชิ้นเนื้อที่จุดเกิดมะเร็งรวมถึงต่อมน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากจะได้ทราบผลทางพยาธิวิทยาแล้ว ยังได้ทราบถึงระดับความลึกในการรุกล้ำของมะเร็ง อีกทั้งมีการรุกล้ำไปยังหลอดเลือดหรือไม่ เซลล์อยู่ในเกรดใด ( Histological grade ) เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการเลือกเทคนิคทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งองคชาต หากตรวจชิ้นเนื้อแล้วพบว่ามีเซลล์มะเร็ง ควรรีบวางแผนทันที โดยแผนของทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวนั้น ประกอบไปด้วย การผ่าตัด การใช้ความเย็น เทคนิคแบบเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือด การใช้เทคนิคภูมิคุ้มกัน เทคนิคยีนเจาะจงเซลล์มะเร็ง เป็นต้น



มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด
มะเร็งตับ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งกระเพาะอาหาร
มะเร็งกระดูก
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งตับอ่อน
มะเร็งหลอดอาหาร
มะเร็งสมอง
มะเร็งช่องปาก
มะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งคอ
มะเร็งถุงน้ำดี
มะเร็งช่องคลอด
มะเร็งองคชาติ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งโพรงจมูก
มะเร็งลำไส้เล็ก
มะเร็งไต
มะเร็งทวารหนัก
มะเร็งอัณฑะ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Multiple myeloma
มะเร็งต่อมหมวกไต
มะเร็งกระดูกสันหลัง
มะเร็งลำไส้
มะเร็งตา
โรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
มะเร็งลิ้น
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งรังไข่
มะเร็งต่อมไทรอยด์
อาการโรคมะเร็ง การวินิจฉัยโรคมะเร็ง การรักษาโรคมะเร็ง
ผู้สื่อข่าวสำนักพิมพ์ไทยรัฐประเทศไทย เดินทางไปสัมภาษณ์โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวถึงเมืองกวางเจา และเห
โครงการ 2,000,000 บาท ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งของมูลนิธิบ่ออ้าย (ประเทศไทย)
งานมอบรางวัล “ผู้กล้าสู้มะเร็งประจำเดือนมีนาคม”
ผู้บริหารของโรงพยาบาลเราได้พบคุณห่าวซีซานสมาชิกสถาบันด้านวิศวกรรมแห่งประเทศจีน เพื่อเสาะหาความร่วมมือและการพัฒนา
กลุ่ม MDT ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีสุขภาพที่แข็งแรงและกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
นำโรงพยาบาลเข้าสู่มาตรฐาน JCI ยกระดับให้โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
สุขไปกับชีวิตสายการแพทย์ เติมเต็มคุณค่าของชีวิต
การฝังแร่ไอโอดีน เสียงสวรรค์ของผู้ป่วยมะเร็ง --การประชุมใหญ่ด้านเทคโนโลยีการรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่ไอโอดีนครั้งที่ 13 ณ ประเทศจีน