ช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2014 โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวจัดงานมอบรางวัล “ผู้กล้าสู้มะเร็งประจำเดือนมีนาคม” ขึ้นที่ห้องประชุมชั้นเก้า การจัดงานมอบรางวัลในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรักและความกล้าหาญในการต่อสู้เอาชนะโรคร้ายของผู้ป่วยมะเร็ง โดยมีผู้ป่วยมะเร็ง 14 คน พร้อมทั้งครอบครัวเข้าร่วมด้วย คุณเฉินชิงเยวี่ยจากประเทศอินโดนีเซีย คุณอินทร์จากประเทศไทยและคุณจูเจินเจินจากประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้กล้าสู้มะเร็งที่ดีที่สุดประจำเดือนนี้
งานมอบรางวัลเริ่มต้นขึ้น เฉินปิง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้มอบประกาศนียบัตรผู้กล้าสู้มะเร็ง ของขวัญและดอกไม้ให้แก่ผู้ป่วยทั้งสาม ทั้งยังให้กำลังใจผู้ป่วยมะเร็งท่านอื่นๆ ว่า ต้องใช้ชีวิตอย่างมองโลกในแง่ดีและร่าเริง กระตือรือร้นให้ความร่วมมือกับคุณหมอในการรักษา และเชื่อมั่นว่าทุกคนจะสามารถกลับมาดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติเหมือนกับผู้กล้าต่อสู้มะเร็งทั้งสามท่านนี้ได้ ภายใต้ความช่วยเหลือของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่อยู่ในโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแห่งนี้
หลังจากนั้น ผู้กล้าสู้มะเร็งทั้งสามท่านได้แบ่งปันข้อคิดและความรู้สึกจากประสบการณ์การต่อสู้มะเร็งของตนเองให้กับทุกคน เฉินชิงเยวี่ยจากประเทศอินโดนีเซียพบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งปอดเมื่อเดือนเมษายนของปีที่แล้ว ตอนนั้นเขามองโลกในแง่ร้ายอย่างมาก แต่หลังจากมารักษายังโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้ง จากที่ครั้งแรกไม่สามารถลุกลงจากเตียงได้ จนตอนนี้สามารถไปเดินเล่นบนภูเขาไป๋อวิ๋นได้แล้วนั้น ทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก และรู้สึกขอบคุณโรงพยาบาลกับภรรยาของเขาเป็นอย่างมาก ที่ดูแลพยาบาลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนจูเจินเจินเป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนหน้านี้ท้องบวมโตมากเหมือนกับหญิงตั้งครรภ์ หลังจากผ่านการรักษาเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือดแล้วก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ทั้งยังมีสภาพจิตใจที่ดีอีกด้วย เธอกล่าวว่า “โรคมะเร็งไม่ได้น่ากลัว ขอแค่เจอโรงพยาบาลดี คุณหมอดี เผชิญหน้าด้วยการมองโลกในแง่ดี ก็จะฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงอีกแน่นอน”
คุณอินทร์จากประเทศไทย เมื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้จากโรงพยาบาลในท้องถิ่นนั้น คุณหมอบอกกับเขาว่า มีชีวิตอยู่ได้แค่หกเดือนเท่านั้น แต่เขาไม่ยอมให้ชีวิตจบลงเพียงเท่านี้ จึงเริ่มเสาะหาการรักษา เขาเห็นผู้ป่วยมากมายที่ผ่านการรักษาด้วยวิธีดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัด การฉายรังสี เป็นต้น แล้วผ่ายผอมลงทุกวัน ซึ่งไม่เพียงแต่อาการจะไม่ดีขึ้น กลับยิ่งทุกข์ทรมานมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ บางคนถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี เขาจึงมองหาการรักษาจากต่างประเทศ ดังนั้นด้วยการแนะนำของเพื่อน เขาหอบความหวังมายังโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ซึ่งก่อนมาทำการรักษา เขาต้องเข้าห้องน้ำทุกวัน โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะเข้าบ่อยมากกว่าเดิม นอนก็ไม่หลับ ผ่ายผอมลงเรื่อยๆ แต่หลังจากผ่านการรักษาจากโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาก็ไม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ อีกแล้ว นอนหลับ ทานอาหารได้ อีกทั้งสามารถทำงานได้เหมือนคนปกติอีกด้วย สุดท้ายคุณอินทร์กล่าวกับทุกคนว่า “เราต้องมีความเชื่อมั่น ไม่ต้องกลัว สักวันคุณจะมองเห็นความหวังแน่นอน”
สิ่งที่ผู้กล้าสู้มะเร็งแบ่งปันภายในงานนั้นได้รับการตอบรับจากผู้ป่วยที่มาร่วมงานอย่างอบอุ่น เสียงปรบมือดังกึกก้อง ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยแสดงออกว่าจะกระตือรือร้นในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายจนถึงที่สุด เฉินปิง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแนะนำว่า การคัดเลือกผู้กล้าสู้มะเร็งจัดขึ้นครั้งแรกในงานฉลองครบรอบแปดปีของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเมื่อปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นเป็นการคัดเลือกประจำปี อีกทั้งจำนวนคนที่ผ่านการคัดเลือกค่อนข้างมาก มีทั้งหมดสิบท่าน ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม จะคัดเลือกเดือนละหนึ่งครั้ง จำนวนคนที่ผ่านการคัดเลือกจะมีสามท่าน เขาแสดงให้เห็นว่า วัตถุประสงค์ที่จัดขึ้นก็เพื่ออาศัยการรวมกลุ่มกันของผู้ป่วยมาแบ่งปันประสบการณ์และข้อคิดจากการต่อสู้มะเร็งของอีกฝ่าย ถ่ายทอดพลังงานบวกซึ่งกันและกัน เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการต่อสู้มะเร็งของเหล่าผู้ป่วยให้เข้มแข็งขึ้น และทำให้ร่างกายฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน
รองผู้อำนวยการเฉินมอบรางวัลให้แก่เฉินชิงเยวี่ย ผู้ป่วยมะเร็งปอดจากประเทศอินโดนีเซีย
จูเจินเจิน ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจากประเทศฟิลิปปินส์แบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการต่อสู้มะเร็งให้กับทุกคน
คุณอินทร์ ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ตรงจากประเทศไทยแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการต่อสู้มะเร็งให้กับทุกคน