เมื่อไม่กี่วันมานี้ เด็กหญิงคนหนึ่งจากหยวนเจียง มณฑลหูหนาน ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ชื่อของเธอคือ หวังจิ้งเหวิน พ่อของเธอเคยได้รับบาดเจ็บจากการหกล้มจึงทำให้กระดูกขาหัก แม่ของเธอก็กำลังได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งเต้านม แล้วตัวเธอเล่า? เมื่ออายุได้สี่ขวบก็ต้องเรียนรู้การทำอาหาร เจ็ดขวบก็ต้องแบกรับภาระของครอบครัว ตอนนี้เธออายุเก้าขวบ ก็ยังโชคร้ายเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวอีก เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นตามกันมาไม่หยุดไม่หย่อน ทำให้ครอบครัวนี้ต้องเจ็บปวดแสนสาหัส
ปัจจุบัน โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้เข้าร่วมดำเนินการ “ส่งต่อแรงใจและความรัก” เพื่อช่วยเหลือหนูน้อยจิ้งเหวิน ซึ่งทางโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ร่วมมือกับกลุ่มอาสาสมัครของมณฑลกว่างโจว รวมทั้งเรียกร้องให้สังคมมอบความช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวของหนูน้อยจิ้งเหวินอีกด้วย
ครอบครัวของหนูน้อยจิ้งเหวินถ่ายภาพร่วมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลหวังหวยจง ( ขวาแรก ) และหัวหน้าแพทย์เผิงเสี่ยวชื่อ ( ซ้ายแรก )
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหวังหวยจงขึ้นกล่าว
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวใช้เทคโนโลยีการตรวจและรักษาแบบบาดแผลเล็กอันก้าวหน้าในระดับสากล โดยในด้านการรักษามะเร็งเต้านมนั้นจะเห็นผลอย่างเด่นชัด ซึ่งครั้งนี้ทางโรงพยาบาลจึงได้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดมะเร็งเต้านมให้แก่คุณแม่ของหนูน้อยจิ้งเหวินโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกทั้งโรงพยาบาลยังได้ร่วมมือกับกลุ่มอาสาสมัครและองค์กรการกุศลที่เกี่ยวข้องจัดงานคอนเสิร์ตส่วนตัวให้แก่หนูน้อยจิ้งเหวินอีกด้วย
เช้าวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เวลา 9.30 น. โครงการ “ส่งต่อแรงใจและความรัก” เพื่อช่วยเหลือหนูน้อยจิ้งเหวินมาถึงยังมณฑลกว่างโจว และได้จัดงานขึ้นที่ร้านกาแฟอันอบอุ่นบริเวณชั้นหนึ่งของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
ลำดับแรก พิธีกรได้บอกเล่าถึงสถานการณ์ของครอบครัวหนูน้อยจิ้งเหวิน ผู้ที่อยู่ภายในงานทั้งหมดต่างก็เลื่อมใสและซาบซึ้งใจไปกับความเข้มแข็งและการมองโลกในแง่ดีของครอบครัวนี้
จากนั้น หวังหวยจง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ขึ้นกล่าวปราศรัยถึง “โครงการทำความฝันของจิ้งเหวินให้เป็นจริง” ให้ครอบครัวของหนูน้อยจิ้งเหวิน รวมถึงสื่อมวลชนและผู้ร่วมงานได้รับฟัง ทั้งยังมอบของขวัญให้แก่ครอบครัวของหนูน้อยจิ้งเหวินด้วยตัวเองอย่างอบอุ่น
ต่อมา เผิงเสี่ยวชื่อ หัวหน้าแพทย์แผนกมะเร็งของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวและศาสตราจารย์หวังซิน ได้อธิบายถึงอาการของหวังเยี่ยน คุณแม่ของหนูน้อยจิ้งเหวินอย่างละเอียด รวมทั้งแผนการตรวจและรักษาในขั้นต่อไป
คุณพ่อและคุณแม่ของหนูน้อยจิ้งเหวินซาบซึ้งใจมาก เมื่อถูกนักข่าวถามถึงความรู้สึกที่ได้รับจากที่นี่ คุณพ่อตอบว่า “เหมือนบ้านเลย!” ด้านคุณแม่ก็พูดเสริมด้วยความตื้นตันว่า “ไม่นะ ดีกว่าบ้านอีก คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าพวกคุณจะแอบทำอะไรเพื่อเรามากมายขนาดนี้!” พวกเขาแสดงความประหลาดใจมากกับสิ่งที่ได้รับจากการมาที่กว่างโจวในครั้งนี้
เมื่อถามถึงความปรารถนาของครอบครัว คุณพ่อของจิ้งเหวินบอกกับทุกคนว่า “ก่อนอื่นต้องทำให้โรคของแม่จิ้งเหวินดีขึ้นก่อน เธอแบกรับภาระเพื่อครอบครัวมามากแล้ว ส่วนโรคของลูกสาวผมยิ่งไม่มีทางยอมแพ้ ขณะเดียวกันผมก็หวังว่าในอนาคตจะสามารถหาอาจารย์ทางด้านดนตรีโดยเฉพาะมาสอนเธอ ช่วยทำให้ความฝันในการร้องเพลงของเธอเป็นจริง” คุณแม่ของจิ้งเหวินกล่าวว่า “มีคนมากมายขนาดนี้ใส่ใจเรา ใส่ใจจิ้งเหวินลูกสาวเรา พวกเราจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด” และหนูน้อยจิ้งเหวินก็บอกกับนักข่าวอย่างมองโลกในแง่ดีว่า “รอให้หนูหาเงินได้ หนูก็อยากจะช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ตอนนี้หนูหวังว่าจะได้ร้องเพลงให้กับเพื่อนๆ ที่เป็นโรคเดียวกับหนูฟัง จะได้ทำให้พวกเขาผ่อนคลาย มีความสุข”
ในงานสัมภาษณ์ หนูน้อยจิ้งเหวินยังได้ร้องเพลง “แม่น้ำหลิวหยาง” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของหูหนานให้ทุกคนฟัง นำเสียงหัวเราะและความสุขมาสู่ทุกคน และทำให้ทุกคนมองเห็นความหวัง
แม้ว่าเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นไม่หยุดไม่หย่อนจะทำให้ครอบครัวนี้เจ็บปวดแสนสาหัส แต่พวกเขากลับเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ และแม้ว่าสมาชิกทั้งสามคนของครอบครัวต่างก็ต้องต่อสู้กับโรคภัย แต่พวกเขากลับมองโลกในแง่ดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้พวกเราต้องหันมาจับมือกัน ร่วมกันอธิษฐานให้กับครอบครัวของหนูน้อยจิ้งเหวิน ขอให้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริงในเร็ววัน และมีชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหวังหวยจงมอบของขวัญให้แก่หนูน้อยจิ้งเหวิน
ศาสตราจารย์หวังซินบอกเล่าถึงอาการ รวมทั้งแผนการตรวจและรักษาคุณแม่ของหนูน้อยจิ้งเหวิน