หลินจิงเกิดปี พ.ศ. ๑๙๘๖ จบการศึกษาจากภาควิชาคลินิกเวชกรรมแพทย์มหาวิทยาลัยการแพทย์จุงซานปี พ.ศ. ๒๐๐๓ เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลโรคมะเร็งสมัยใหม่กวางโจว เชี่ยวชาญรักษารักมะเร็งใช้ยาเคมีบำบัด ฉายแสง จุดกำเนิดและรักษาการผสมผสานต่าง ๆ คุ้นเคยกับการรักษาแบบแผลเล็กต่าง ๆ เช่นรักษาด้วยทำคีโม ฝังแร่ ความเย็น คลื่นความถี่สูง เชี่ยวชาญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคมะเร็ง
เป็นแพทย์ที่มีความละเอียดและเอาจริงเอาจังตลอดการทำงาน
หลินจิงเป็นผู้มีความละเอียดและเอาจริงเอาจังตลอดเวลาตั้งแต่ตอนเรียนแพทย์ จนถึง๑๐ ปีที่ทำงานรักษาผู้ป่วยหลินจิงก็ยังคงรักษาคุณสมบัติที่ดีไว้ตลอดเวลา หลินจิงเชี่ยวชาญการรักษามะเร็งต่าง ๆ สามารถท่องจำปริมาณการใช้ยาในทุกแผนรักษา ระดับความรุนแรงของยา ข้อห้ามและปฏิกิริยาของยาแต่ละชนิด รวมถึงอาการและสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดขึ้น “ร่างกายผู้ป่วยมะเร็งอ่อนแอมาก หากแผนการรักษาหรือยาที่รักษานั้นเพิ่มหรือขาดเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผู้ป่วยทรมานมากขึ้น ฉะนั้นห้ามผิดพลาดในการใช้ยาเด็ดขาด” หลินจิงตั้งใจวิเคราะห์การแผนรักษาและสังเกตร่างกายผู้ป่วย คอยระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นระหว่างการรักษาเกิดการต่อต้านเหรือหลังการผ่าตัดมีการติดเชื้อ เลือดออกและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
นับตัวเองว่าเป็นญาติและเพื่อนผู้ป่วย
“ที่ฉันดีใจที่สุดคือผู้ป่วยนับฉันเป็นเพื่อนแม้แต่ญาติ พวกเขาไว้วางใจฉันโดยสิ้นเชิง ฝากชีวิตไว้ที่ฉัน ฉันจะพยายามรักษาพวกเขา” ความรู้ที่อุดมและท่าทีที่อ่อนโยนทำให้ผู้ป่วยไว้วางใจ ดร. หลินจิงบอกว่าเขาเป็นแม่ลูกตอนที่เขายุ่งลูกกับครอบครัวไม่ลังเลที่จะสนับสนุนและไม่บ่นแม้แต่คำเดียว ดร. หลินจิงหวังว่าเขาเป็นญาติผู้ป่วยสามารถให้การสนับสนุนผู้ป่วยทุกเวลา
ช่วยชีวิตผู้ป่วยอนันต์ฝีมือการรักษาได้รับความยืนยัน
ฝีมือการรักษาของดร. หลินจิงเป็นที่ยอมรับอย่างมากในบรรดาผู้ป่วย ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งโพรงหลังจมูก โรคมะเร็งเซลล์ไต ผู้ป่วยหลายท่านได้ความช่วยหลือจากดร. หลินจิงจนได้ฟื้นคืนสุขภาพ เมื่อเดือนมีนาคมปี พ.ศ.๒๐๑๒ นายกัวมาจากจาการ์ตา อินโดนีเซีย อายุ ๖๑ มาขอความช่วยเหลือที่โรงพยาบาลโรคมะเร็งสมัยใหม่กวางโจว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. ๒๐๑๑ นายกมีอาการปัสสาวะมีเลือด ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลภายในประเทศบอกว่าเป็นโรคมะเร็งเซลล์ไตขวา โรงพยาบาลภายในประเทศแนะนำตัดไตขวาออกและใช้ยาเคมีบำบัด นายกัวรับไม่ได้จึงปฏิเสธ เมื่อปี พ.ศ.๒๐๑๒ สภาพร่างกายนายกัวแย่ลงเรื่อยๆจึงตัดสินใจมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจว ดร. หลินจิงเป็นแพทย์ประจำให้นายกัวได้ทำการเพาะเลือดและฝังแร่ ดร. หลินจิงทำการจดบันทึกอาการนายกัวและการใช้ยาอย่างรายละเอียดทุกวัน มะเร็งของนายกัวได้ถูกควบคุมอย่างรวดเร็ว หลังรักษา ๒ เดือนก้อนมะเร็งที่ไตขวาเล็กลงและปัสสาวะไม่มีเลือด การกินอาหารและการนอนก็ดีมาก มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ๕ กิโลกรัม ตอนที่กลับจาการ์ตา นายกัวได้กล่าวกับแพทย์ว่า ขอบคุณมากที่สำหรัยการรักษาของโรงพยาบาลและมีเคารพศรัทธาในดร. หลินจิงที่มีความจริงจังและเป็นแพทย์ที่เป็นมืออาชีพ ขอบคุณมาก ๆ
บรรยายรูปภาพ ผู้ป่วยอินโดนีเซียนายกัว กับดร. หลินจิง และคนอื่น ๆ
ดร. หลินจิงกล่าวว่า ตั้งแต่ทำงานปณีธานที่ใหญ่ที่สุดคือผู้ป่วยมีความมั่นใจ ได้มีโอกาสกลับบ้าน กลับสู่สังคม นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านภูมิใจ ขอให้ปณีธานดร. หลินจิงได้เป็นจริง