ตั้งใจค้นหา ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
คุณหมอหลีจื้อเฟย รองหัวหน้าแพทย์โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจวและผู้นำสาขาการแพทย์ เคยศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความรู้เฉพาะทางด้านการป้องกันมะเร็งที่ศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคที่เมืองกวางสีและศูนย์รักษามะเร็งมหาวิทยาลัยซุนยัตเซ็นกวางโจว ได้แสดงความคิดเห็นที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับการป้องกันและรักษามะเร็งโดยเฉพาะ และสะสมประสบการณ์การรักษาผู้ป่วย เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิธีการรักษามะเร็ง เช่น การทำคีโม การใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด การใช้ยีนบำบัด และการใช้การฉายรังสี
ในช่วงการประกอบอาชีพแพทย์นานเกือบ ๒๐ ปี ที่ผ่านมา คุณหมอหลีได้เข้าร่วมกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนเทคนิคการรักษาโรคมะเร็งในงานต่างๆ เช่น ในปี 2004 การประชุมประจำปี CISO ด้านมะเร็ง สมัยที่ 6 ที่ศูนย์ป้องกันและรักษามะเร็งซุนยัตเซ็นกวางโจว ในปี 2009 ประชุมใหญ่เรื่องมะเร็งที่โรงพยาบาลคางหัวเมืองตงก่วนที่จัดขึ้นที่มาเก๊าและฮ่องกง และในปี 2011 เวทีการอภิปรายโรคมะเร็งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กวางโจว คุณหมอหลีกล่าวว่า จากที่ได้สนทนาแลกเปลี่ยนกันกับผู้แทนในการประชุมต่างๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้ได้ความรู้ในการพัฒนาและแนวทางวิจัยในการรักษามะเร็ง
นอกจากนี้แล้ว จากการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการสรุปผลต่างๆ คุณหมอหลีได้สะสมประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยอย่างมากมายในขณะเดียวกันยังตีพิมพ์บทความจำนวนมากในวารสารวิชาการต่างๆ แนะนำประสบการณ์ที่ทำงานในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง บทความที่มีชื่อเสียงคือ “การวิเคราะห์ผลตรวจTSGF ผู้ป่วยมะเร็งโพรงหลังจมูกในตัวอย่าง 34 คน”ห
คุณหมอหลีกล่าวว่า ความรู้ทางการแพทย์ลึกซึ้งมาก ความรู้ที่คนเรามีอยู่ตอนนี้เป็นเพียงส่วนที่น้อยนิดเมื่อเปรียบเทียบกับความรู้ทางการแพทย์ทั้งหมด มนุษย์ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ลึกลับทางการแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์ เช่น โรคมะเร็ง ดังนั้นการประกอบอาชีพแพทย์สำหรับท่านนั้นยังไม่พอใจและยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ความมั่นใจสำคัญมากต่อการตรวจและรักษามะเร็ง
ตอนที่พูดถึงประสบการณ์การตรวจและรักษามะเร็ง คุณหมอหลีเน้นว่า การรักษามะเร็งที่สำคัญที่สุดคือความมั่นใจ ความมั่นใจของหมอและความมั่นใจผู้ป่วย ความเชื่อมั่นของหมอมาจากความรู้ทางเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ มีความเคารพต่ออาชีพและมีความเมตตากรุณาต่อผู้ป่วย ส่วนความมั่นใจของผู้ป่วยมาจากการยอมรับคุณสมบัติของหมอและความไว้วางใจในเทคนิคการรักษาของหมอ
คุณหมอหลีบอกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยอื่นๆ สภาพจิตใจของผู้ป่วยมะเร็งนั้นจะแตกต่างกันมาก ความกลัวความสิ้นหวัง ความกังวล ความกระวนกระวายใจรุมเร้าพวกเขาเสมอ แม้แต่ความไม่วางไว้ใจในแพทย์ ดังนั้นเมื่อเวลาคุณหมอหลีเจอผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง เขาจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วย เช่น เข้าใจสภาพจิตใจของผู้ป่วย ใช้วิธีที่เหมาะสมในการปลอบขวัญผู้ป่วย ขจัดความกังวลทางด้านจิตใจของผู้ป่วย และบอกแผนการรักษา ขั้นตอนให้ผู้ป่วยและครอบครัวทราบ ไม่โอ้อวดผลรักษาหรือหลบหลีกปัญหาที่เป็นไปได้ ก่อนและหลังของการผ่าตัดแต่ละครั้งคุณหมอหลีจะอธิบายให้ผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วยอย่างชัดเจน ท่านมีความอดทนมาก เอาใจใส่ผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจการรักษาอย่างเต็มที่ ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ป่วย คุณหมอหลีเห็นว่ามีแต่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยเท่านั้นถึงจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยจะยอมรับในแพทย์และจะให้ความร่วมมือกับแพทย์ตลอดการรักษา
คุณหมอหลีเป็นแพทย์มืออาชีพที่ควรเป็นแบบอย่าง ทุกเช้าท่านมักจะไปถึงโรงพยาบาลก่อนเวลาทำงานครึ่งชั่วโมง ท่านจะรีบเตรียมพร้อมทำเอกสารของแพทย์และเยี่ยมผู้ป่วยตามห้อง ท่านจะยิ้มพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างเป็นกันเองทุกครั้งที่ไปเยี่ยมผู้ป่วย ไม่ว่าจะเดินทางไปสถานที่ใหน สถานที่แรกที่ท่านต้องไปไม่ใช่บ้าน แต่คือห้องผู้ป่วย รายละเอียดเหล่านี้ดูเหมือนเล็กน้อย แต่ท่านก็ทำต่อเนื่องมานานเกือบ ๒๐ ปี ให้ความเคารพและให้ความเข้าใจผู้ป่วย ช่วยผู้ป่วยสร้างความมั่นใจที่จะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ผ่านการรักษาที่เหมาะสมทำให้ช่วยบรรเทาความทรมานจากความเจ็บปวดให้แก่ผู้ป่วยได้