ชวียู่จี : แพทย์ประจำตัวผู้ป่วยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เกิดเมื่อปี ค.ศ.1979 และในปี ค.ศ. 2003 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิชาการแพทย์ที่กว่างโจว เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งในระบบทางเดินอาหาร มะเร็งในระบบทางเดินหายใจ มะเร็งสมองและการวินิจฉัยรักษาโรคเลือด เป็นต้น อีกทั้งเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฉายแสง การทำคีโม การรักษาทางชีวภาพ การกระจายความร้อนผ่านช่องทรวงอก และวิธีการรักษาอื่นๆ เป็นต้น
ต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากขึ้น
ชวียู่จี นายแพทย์ประจำชั้นแปดแผนกโรคมะเร็งของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว แพทย์ประจำตัวผู้ป่วยที่มีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส มีความขยันขันแข็ง เมื่อท่านกล่าวถึงเหตุผลในการเลือกเป็นแพทย์คือ ต้องการช่วยเหลือคน เป็นเพียงคำตอบง่ายๆ เพียงคำตอบเดียว ความเชื่อนี้ทำให้ท่านประสบความสำเร็จในการทำงานอย่างมาก สามารถเอาชนะกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
เมื่อท่านเริ่มทำงานที่แผนกโรคมะเร็ง เพื่อที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีการแพทย์ได้อย่างเร็วที่สุด คุณหมอชวียู่จีทุกวันๆ จะเข้าตรวจเช็คผู้ป่วยที่ห้องอย่างสม่ำเสมอ
ติดตามและบันทึกอาการผู้ป่วย อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้กับแพทย์ท่านอื่นๆ เกี่ยวกับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน พยายามสะสมความรู้ประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยเพิ่มพูนความรู้ของตัวเองให้มากยิ่งขึ้น จนมาถึงปัจจุบันนี้ คุณหมอชวียู่จีมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฉายรังสี การทำคีโม การใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด การให้เลือดในส่วนช่องท้องและทรวงอกและการให้ความร้อนในร่างกาย การรักษาด้วยความเย็น การฝั่งแร่ วิธีเหล่านี้เป็นต้น อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างๆ เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งตับ ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างๆ เป็นต้น “ผมเต็มใจที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการรักษา หน้าที่ของผมคือพยายามค้นพบวิธีรักษา เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้บรรเทาจากความทุกข์ทรมาน” คุณหมอชวียู่จีได้ยึดหลักในคตินี้จึงทำให้ฝีมือในการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเป็นที่ยอมรับจากผู้ป่วย เป็นสิ่งที่แพทย์ภาคภูมิใจ
เมื่อพบผู้ป่วยหลังการรักษามีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ยกย่องการรักษาของหมอที่มีประสิทธิภาพนั้น คุณหมอชวียู่จีก็คิดว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจที่สุด
จากประสบการณ์ของผมบอกว่า สิ่งที่ผู้ป่วยต้องการจริงๆ คือ การกลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งผมควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และรองลงมาคือเติมเต็มความต้องการของผู้ป่วย เพื่อให้พวกเขาได้มีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 โรงพยาบาลได้รับรักษาหวังจินชิ่งผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินชาวอินโดนีเซีย เมื่อต้นปี 2009 นายหวังเริ่มรู้สึกเจ็บคอแล้วลูบบริเวณคอข้างซ้ายพบว่ามีก้อนขนาดใหญ่มาก จึงไปที่โรงพยาบาลแผนกหูคอจมูกเพื่อตรวจดู แพทย์ให้เขาทานยาต้านการติดเชื้อ ถึงแม้อาการปวดลดลงแต่ก้อนนั้นก็ยังมีขนาดใหญ่เหมือนเดิม ในเดือนสิงหาคม ปี 2011 คุณหวังพบก้อนเนื้องอกบริเวณรักแร้ทั้งสองข้างเขาจึงเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจ น้ำหนักลดลงถึง 10 กิโลกรัม เมื่อออกกำลังกายก็จะมีอาการแน่นหน้าอก ต่อให้นอนหงายแล้วก็ยังรู้สึกหอบ หายใจไม่เป็นจังหวะและหายใจลำบาก นอนตะแคงไม่ค่อยได้ ทำให้ในแต่ละวันนั้นนอนไม่ค่อยหลับ เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว มีใบหน้าที่ซีด ไม่มีแรงแม้แต่จะพูดคุย แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่แล้วก็แสดงว่าเขายังมีความหวังอยู่ เขาหวังว่าจะสามารถกลับมามีสุขภาพที่ดี คุณหมอชวียู่จีได้นำเนื้อบริเวณรักแร้ข้างซ้ายไปวินิจฉัย ผลออกมายืนยันว่าเขาเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (เซลล์ชนิดผสม) คุณหมอชวียู่จีได้วางแผนการรักษาโดยการทำคีโมเฉพาะจุดให้คุณหวัง หลังจากทำการรักษาแล้วก้อนมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองก็มีขนาดเล็กลง ทานอาหารได้มากขึ้น ในที่สุดคุณหวังก็สามารถหลับได้อย่างสบาย วันที่ออกจากโรงพยาบาล หวังจินชิ่งก็มีชีวิตเหมือนกับคนปกติ น้ำหนักเพิ่มขึ้น 5 กิโลกว่า เขาถอนใจด้วยความโล่งอกในการมีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง เขาต้องมีร่างกายที่แข็งแรงถึงจะสามารถดูแลครอบครัวได้ คุณหวังยังกล่าวชมนายแพทย์ชวียู่จีที่มีความชำนาญในการรักษาและอุปกรณ์ที่ทันสมัยอีกด้วย
ภาพถ่ายร่วมกันของคุณหมอชวียู่จีและผุ้ป่วยหวังจินชิ่ง
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวมีเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีคุณหมอชวียู่จีที่ขยันขันแข็งในการทำงาน เป็นแพทย์ที่มองความต้องการของผู้ป่วยเป็นเหมือนความต้องการของตัวเอง คุณหมอชวียู่จีบอกว่า "เส้นทางสายการแพทย์ยังอีกยาวไกล อนาคตผมจะมีประสบการณ์ต่างๆ มากกว่านี้"