ข่ายตี้
อายุ : 48 ปี
เชื้อชาติ : ผู้ป่วยชาวฟิลิปปินส์
การตรวจวินิจฉัย : มะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ลุกลามต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ระดับเบา
การรักษา : การผ่าตัดมะเร็งเต้านมแบบดั้งเดิมประยุกต์ + การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมใหม่ + การให้คีโมเฉพาะจุด + การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด
ชีวิตปัจจุบันของข่ายตี้
“หากไม่ได้ประสบกับจุดหักเหเป็นมะเร็งเต้านม ฉันคงไม่สามารถคาดเดาชีวิตปัจจุบันของฉันได้เลย ทุกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์และมีความหมาย ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันสวยงามเช่นนี้นี่เอง” ตอนที่ข่ายตี้มาตรวจซ้ำที่โรงพยาบาล เธอได้ให้พวกเราดูโปสการ์ดแผ่นหนึ่ง นั่นเป็นเกาะหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทิวทัศน์สวยงามมมาก “ที่นี่สวยงามมาก แต่พายุไต้ฝุ่นที่ถล่มฟิลิปปินส์มักจะทำให้ที่นี่เสียหาย เมื่อถึงฤดูพายุไต้ฝุ่น บ้านเรือนของประชาชนจะจมน้ำ ผู้คนจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัย”
ข่ายตี้บรรยายความโหดร้ายของพายุไต้ฝุ่นที่นำภัยพิบัติมาสู่เพื่อนร่วมชาติ แต่ว่ารอยยิ้มก็กลับมาบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว “สองปีมานี้ ฉันไปกลับระหว่างเกาะกับที่ที่ฉันอาศัยอยู่ ฉันรวบรวมเครื่องอุปโภคบริโภค เข้าร่วมอบรมทีมกู้ภัย สนับสนุนให้ทั่วโลกให้ความสนใจสถานการณ์ของประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะ หลังจากผ่าตัดมะเร็งเต้านมแล้ว ชีวิตของฉันก็มีพลังมากยิ่งขึ้น ฉันเริ่มเข้าใจความหมายของชีวิตอย่างชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน พระเจ้าบอกฉันว่า ต้องช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในความยากลำบากอย่างมาก ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างแข็งแรงและมีความสุข นี่จึงเป็นผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการได้รับชีวิตใหม่ของฉัน”
เคราะห์กรรมกะทันหันของข่ายตี้
ข่ายตี้ มีลูกอายุ 3 ขวบ สามีของเธอสร้างชีวิตที่ดีให้แก่เธอและลูก เธอมีหน้าที่ง่ายๆ ในร้านขายยา จึงทุ่มเทชีวิตส่วนใหญ่ไปไว้กับการดูแลลูก การทำงานเกี่ยวกับการแพทย์ ทำให้ข่ายตี้ให้ความสนใจต่อสุขภาพร่างกายของตนเองและคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก หลังจากอายุ 40 ปี การตรวจทางนรีเวชและการตรวจเต้านมทุกปีก็ไม่ได้มีความผิดพลาด แต่ทว่าโชคชะตากลับไม่ได้เข้าข้างความใส่ใจและความระมัดระวังอย่างเข้มงวดของเธอเลย ผลการตรวจเต้านมเมื่อสองปีก่อนทำให้ข่ายตี้และคนในครอบครัววิตกกังวลมาก ข่ายตี้ได้รับโทรศัพท์ให้ต้องไปตรวจชิ้นเนื้อมะเร็งเต้านม คุณหมอที่รับผิดชอบการตรวจเอกซเรย์เป็นผู้บอกกับเธอ "คุณหมอบอกฉันว่าเต้านมของฉันมีก้อนเนื้อเล็กๆ สงสัยว่าจะเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งเต้านม ฉันรู้สึกได้ในทันทีว่ามันต้องไม่ใช่แค่ ' สงสัย ' แน่นอน ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อม” ข่ายตี้กล่าว
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ผลการตรวจชิ้นเนื้อก็แสดงให้เห็นจริงๆ ว่าข่ายตี้เป็นมะเร็งเต้านม “ แม้ว่าจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อและยอมรับ โอ้พระเจ้า! นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ " ข่ายตี้ในตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย
การเลือกของข่ายตี้
เหมือนกับปกติทั่วไป สามีของข่ายตี้กลายเป็นที่พึ่งพิงอันมั่นคงหลังจากเธอเป็นมะเร็ง เขานำผลการตรวจวินิจฉัยของภรรยาไปเสาะหาข้อมูลตามที่ต่างๆ เมื่อทำความเข้าใจจากหลายๆ ที่ แล้วเขาก็พบว่า สำหรับประเทศฟิลิปปินส์นั้น โรคมะเร็งยังคงเป็นปัญหาที่โรงพยาบาลมากมาย จัดการได้ยาก แต่โชคดีที่เพื่อนซึ่งเป็นหมอมาหลายปีนำความหวังมาให้ “เขาบอกว่า ‘ไปโรงพยาบาลที่จีนเถอะ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ฉันเคยรู้จักตอนประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการ พวกเขาอาจช่วยพวกเธอได้’ ” ข่ายตี้หวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาที่ตัดสินใจนั้น ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนคนนี้ ข่ายตี้และสามีจึงไปยังกว่างโจวประเทศจีนโดยไม่ลังเลเลย
การรักษาของข่ายตี้
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ข่ายตี้ก็ได้รับการตรวจทุกด้านและกำหนดแผนการรักษาทันที “ฉันได้รับผลที่ดีมาก คุณหมอบอกว่ามะเร็งของฉันอยู่ในระยะแรก การผ่าตัดเต้านมแบบดั้งเดิมประยุกต์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉัน อัตราการกลับมาเกิดซ้ำก็น้อยมาก”
ข่ายตี้เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามคนหนึ่ง เมื่อเธอลังเลว่าการผ่าตัดออกจะทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้าลูกและสามีนั้น คุณหมอจึงรีบติดต่อหัวหน้าแพทย์หวัง แพทย์ศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อปรึกษาแผนที่ใหม่ที่สุดทันที ในที่สุดพวกเขาตัดสินใจทำการผ่าตัดแบบดั้งเดิมประยุกต์และผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมใหม่ในทันทีให้แก่ข่ายตี้ ซึ่งเต้านมด้านซ้ายของข่ายตี้มีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อ ก้อนเนื้อขนาด 3 เซนติเมตรกับเต้านมจึงถูกตัดออกพร้อมกัน รวมทั้งจัดการกับต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้อีกด้วย ซึ่งขณะที่ดำเนินการผ่าตัดนั้น คุณหมอหวังก็ได้นำแผ่นผิวหนังบริเวณหลังมาปลูกถ่ายเป็นเต้านมใหม่ให้ข่ายตี้ โดยนำผิวหนัง หลอดเลือดและกล้ามเนื้อบริเวณหลังของข่ายตี้เองมาปลูกถ่ายทำเป็นเต้านมใหม่บริเวณหน้าอก "ตอนที่ให้ยาชาฉันไม่รู้สึกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อฉันตื่นขึ้นมา คุณหมอก็บอกว่าการผ่าตัดสำเร็จแล้ว ไม่กี่วันหลังจากนั้น คุณหมอก็ช่วยฉันดึงสายระบายออก บอกว่าฉันสามารถไปส่องกระจกได้แล้ว ฉันตื่นเต้นและรอคอย ฉันมองเห็นเต้านมใหม่ที่สมบูรณ์ของฉัน ยิ่งไปกว่านั้น เต้านมนี้ไม่มีมะเร็ง" เมื่อรำลึกถึงความรู้สึกหลังการผ่าตัด คำพูดของข่ายตี้ก็สั่น ในดวงตามีหยดน้ำตาปรากฏขึ้นมา
สองปีต่อมา ข่ายตี้กลับไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาล 3 ครั้งตามลำดับ เพื่อให้คีโมเฉพาะจุดและใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งควบคุมการกลับมาและการลุกลามของมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข่ายตี้อธิบายชีวิตตนเองว่าเกือบเหมือนกับคนปกติทั่วไป เต็มไปด้วยกำลังวังชา
การให้กำลังใจของข่ายตี้
“ ฉันคิดว่า เพื่อนๆ รอบข้างฉัน ทำไมต้องหมดหวังกับชีวิตด้วย? คุณสามารถเป็นเหมือนฉันได้ ค้นพบวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง แม้ว่าจะเป็นมะเร็งก็ตาม ซึ่งนั่นหมายถึงเราต้องยิ่งแข็งแกร่ง เมื่อคุณพบวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ที่เหลือก็คือ ความมั่นใจเด็ดเดี่ยว ให้พวกเราสามารถเอาชนะมะเร็งได้ พวกคุณทำได้แน่นอน” ก่อนกลับประเทศ ข่ายตี้ได้ให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ป่วยหญิงอีกครั้ง