หัวหน้าประจำแผนก 8F รองหัวหน้าทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญวิธีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก
มีความรู้ในการรักษาแบบบาดแผลเล็กอย่างลึกซึ้ง
ไป๋ไห่ซาน หัวหน้าแพทย์ประจำแผนกผู้ป่วยชั้น 8 โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว จบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์เปาโถวเมื่อปีค.ศ. 1992 ทำงานด้านการแพทย์มา 20 กว่าปี การตรวจวินิจฉัยกรณีโรคที่แก้ได้ยาก ทำให้ท่านสั่งสมประสบการณ์ด้านการรักษามะเร็งไว้มากมาย เชี่ยวชาญการวินิจฉัยและรักษามะเร็งชนิดต่างๆ แบบบูรณาการ ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ เป็นต้น จึงมีความรอบรู้ด้านการรักษาแบบบาดแผลเล็กอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากคนส่วนใหญ่ประมาณ 80% เมื่อพบว่าตนเองเป็นมะเร็งก็มักจะอยู่ในระยะกลางหรือระยะสุดท้ายแล้ว จึงสูญเสียโอกาสในการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด อีกทั้งการรักษาแบบดั้งเดิมด้วยวิธีการฉายแสงและการทำคีโมก็มีผลกระทบต่อร่างกายของผู้ป่วยค่อนข้างมาก ผู้ป่วยจำนวนมากไม่สามารถรับไหว เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดในการรักษาให้กับผู้ป่วย หัวหน้าไป๋จึงตัดสินใจศึกษาเทคโนโลยีสมัยใหม่ขั้นสูงที่ใช้ในการรักษามะเร็งอย่างการรักษาแบบบาดแผลเล็ก ทั้งการใช้ความเย็น การฝังแร่ การรักษาเฉพาะจุดผ่านหลอดเลือด การใช้คลื่นความถี่สูง การฉายแสงเลเซอร์ เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้มีจุดเด่นที่เหมือนกันคือ บาดแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว เจ็บปวดน้อย ผลการรักษาดี ดังนั้นหัวหน้าไป๋จึงไปศึกษาเพิ่มเติมยังโรงพยาบาลมะเร็งของมหาวิทยาลัยจงซาน เพื่อให้เข้าใจถึงทฤษฎีและการปฏิบัติในการรักษาแบบบาดแผลเล็ก หลังจากศึกษากลับมา หัวหน้าไป๋ได้นำหลักพื้นฐานความรู้ด้านการแพทย์ที่ร่ำเรียนมาหลายปี บูรณาการกับเทคโนโลยีการรักษาแบบดั้งเดิมประยุกต์ ทั้งยังใช้เทคโนโลยีใหม่ขั้นสูงในการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็ก ซึ่งได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการรักษามะเร็งระยะกลางและระยะสุดท้าย รวมถึงมะเร็งที่มีการกลับมาเป็นซ้ำหรือลุกลาม คุณหมอไป๋รักษามะเร็งมามากกว่า 2000 เคส ทำให้มีประสบการณ์ด้านการรักษาแบบบาดแผลเล็กอย่างมากมาย
หัวหน้าไป๋ไม่เพียงแต่มีประสบการณ์การตรวจและการรักษาอย่างกว้างขวาง ท่านยังเข้าร่วมการวิจัยทางด้านวิชาการอยู่เสมอ เคยได้รับเชิญไปยังเมืองที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการแพทย์ของประเทศอย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้อยู่หลายครั้ง เข้าร่วมการประชุมมะเร็งระดับประเทศ การประชุมวิธีการรักษามะเร็งแบบบาดแผลเล็ก เป็นต้น เข้าร่วมการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการกับผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง และยังไม่หยุดที่จะสร้างงานวิจัยใหม่ๆ อยู่เสมอ
ใส่ใจผู้ป่วย มีใจกรุณา รักษาด้วยความเมตตา
หลายปีที่ผ่านมา หัวหน้าไป๋ไม่เคยหวาดกลัวต่อความลำบาก ท่านช่วยเหลือผู้ป่วยมามากมาย หัวหน้าไป๋ยึดหลัก “ มนุษยธรรม ปัจเจกบุคคล ” ในการรักษามะเร็ง ปัจเจกบุคคล คือ การกำหนดแผนการรักษาผู้ป่วยทุกคน ท่านจะยึดตามลักษณะสภาพร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน ประเภททางพยาธิวิทยา รวมทั้งระยะของมะเร็งเป็นหลัก จากนั้นผสมผสานเข้ากับประสบการณ์การรักษาของตนเองแล้วกำหนดแผนการรักษา ส่วนมนุษยธรรม คือ การที่หัวหน้าไป๋ทำการรักษาโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงการร้องขอของผู้ป่วย เคารพในความต้องการของผู้ป่วย และแผนการรักษาทุกอย่างต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้ป่วยก่อนจึงจะลงมือรักษาได้ ยึดผลประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วยเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อลดความเจ็บปวดจากโรคมะเร็งให้กับผู้ป่วย หัวหน้าไป๋ให้ความสำคัญกับการพูดคุยกับผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยได้รับรู้อาการของตนเองอย่างเหมาะสมรวมถึงแผนการรักษา ประเมินอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษา หัวหน้าไป๋ก็จะอธิบายให้ผู้ป่วยฟังอย่างอดทน ท่านคิดเสมอว่า การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ป่วยได้ ให้ผู้ป่วยและตนเองยืนอยู่บนทางเส้นเดียวกัน ต่อสู้กับมะเร็งไปด้วยกัน !
“ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง” ประโยคนี้หัวหน้าไป๋ไม่ได้พูดเพียงปากเปล่า แต่จำไว้จนขึ้นใจ ความใส่ใจดูแลที่ท่านมีต่อผู้ป่วยนั้น ทำให้ผู้ป่วยและญาติรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เดินตรวจผู้ป่วย หัวหน้าไป๋มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ พูดคุยแสดงความห่วงใย และยังช่วยประคองผู้ป่วย เมื่อเห็นหมอนของผู้ป่วยเอียง ก็ช่วยจัดหมอนให้นอนได้สบาย เมื่อผู้ป่วยรู้สึกหิวน้ำ ก็ช่วยรินน้ำให้ เมื่อผู้ป่วยไอ ก็ช่วยตบหลังให้เบาๆ ในฐานะที่เป็นหมอรักษาด้านมะเร็ง การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่อยู่ท่ามกลางความเจ็บปวด ความเหงา และความสิ้นหวังนั้น ทำให้หัวหน้าไป๋รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก